a-level ไม่ได้ดั่งใจ ยังมีคณะที่ใช่รออยู่ที่จีน

แชร์ประสบการณ์การศึกษาต่อที่ประเทศจีนกับ Jinbu

By น้องปอนด์ นักศึกษาทุน Hunan University of Science and Technology

“ พอได้เจอ Jinbu ก็เลยรู้สึกว่านี่แหละ! สิ่งที่ฉันตามหา เพราะดูแลดีตั้งแต่เริ่มปรึกษาการเรียนต่อเลย แนะนำได้ถูกใจสุด ๆ”

Hello 大家好 สวัสดีค่ะทุกคน เราชื่อนางสาวชญาพิมพ์ แย้มบู่ ชื่อเล่น ‘ปอนด์’ มีชื่อจีนชื่อว่า ‘张称美’ หรือ ‘จาง เชิง เหม่ย’ ตอนนี้เราเป็นนักศึกษาปี 1 ที่ Hunan University of Science and Technology (湖南科技大学) หรือในภาษาไทยเรียกว่า ‘มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีหูหนาน’ เราเรียนคณะคณะภาษาจีนและวรรณคดี (汉语言文学专业) วันนี้เราจะมาเล่าประสบการ์การเรียนต่อที่ประเทศจีนและความประทับใจที่มีต่อ Jinbu กันค่ะ

ความสนใจในการเรียนต่อจีน และทำไมต้องเป็น Jinbu

เราเริ่มเรียนภาษาจีนตั้งแต่ ม.4 แล้ว ในช่วงที่กำลังคิดเรื่องเรียนต่อมหาวิทยาลัย เรามุ่งมาที่ประเทศจีนอย่างเดียวเลย และพอมีแผนว่าจะมาเรียนต่อที่ประเทศจีนก็เริ่มศึกษาว่ามีวิธีไหนบ้างที่จะมาเรียนที่ประเทศจีน ก็เลยรู้ว่ามีเอเจนซี่ทีคอยดูแล แนะแนว และจัดการเรื่องเอกสารต่าง ๆ ซึ่งเราดูหลายเอเจนซี่มาก แต่ก็ยังไม่มีที่ถูกใจเรา พอได้เจอ Jinbu ก็เลยรู้สึกว่านี่แหละ! สิ่งที่ฉันตามหา เพราะดูแลดีตั้งแต่เริ่มปรึกษาการเรียนต่อเลย แนะนำได้ถูกใจสุด ๆ ทีมงานก็จะช่วยดูช่วยแนะนำมหาวิทยาลัยให้เข้ากับคุณสมบัติของเรา คอยช่วยเหลือในทุก ๆ ขั้นตอน เรื่องเอกสารจัดการได้ดี พี่ ๆ Jinbu ช่วยได้เยอะมาก ในเรื่องการเตรียมเอกสาร และมีหนึ่งสิ่งที่เราชอบเลยก็คือก่อนจะถึงวันที่สัมภาษณ์ พี่ ๆ Jinbu ได้จัดเตรียมติวสัมภาษณ์ สำหรับเราแล้วนี่เป็นสิ่งที่ดีมาก อาจารย์ที่ติวสัมภาษณ์สอนดี ติวให้หลายหัวข้อ หลายคำถาม สอนการออกเสียง สอนเรื่องการพูดยังไงให้ดูเป็นธรรมชาติ และไม่ดูเกร็งเวลาตอบคำถาม เป็นการซ้อมเหมือนการสัมภาษณ์จริง เพื่อที่ถึงเวลาสัมภาษณ์จะได้ไม่ตื่นเต้น ทั้งยังบอกแนวทางในการตอบคำถาม คอยช่วยเหลือว่าควรตอบคำถามยังไงให้ดูดี ให้รู้สึกว่าอยากไปเรียนที่มหาวิทยาลัยนั้นจริง ๆ และตอนที่เราสัมภาษณ์ คำถามที่อาจารย์ติวมาก็ช่วยเราได้เยอะ ตอนเราสัมภาษณ์จริงโดนถามประมาณ 4 – 5 คำถาม และคำถามที่อาจารย์ของ Jinbu ติวมาออกไปแล้ว 3 คำถาม เรารู้สึกดีมาก ดีแบบตะโกนไปเลย (หัวเราะ)

ก่อนจะเดินทางมาประเทศจีน ที่ Jinbu มีจัดกิจกรรมปฐมนิเทศ หลายคนมาร่วมกิจกรรมและได้แลกเปลี่ยนทางความคิด เราพูดคุยกันว่าตอนสัมภาษณ์เป็นยังไง คำถามยากไหม เตรียมตัวยังไง ได้รู้จักเพื่อน ๆ ต่างมหาวิทยาลัยมากมาย ด้านกิจกรรมก็สนุกมาก พี่ ๆ ทุกคนตลกดี ชอบสุด ๆ วันนั้นเราได้ฟังพี่ ๆ ที่มีโอกาสได้ไปเรียนที่จีนมาก่อนมาแชร์ประสบการณ์ให้ฟังกันสด ๆ ว่าไปอยู่ที่จีนมาแล้วระยะเวลาหนึ่งเป็นยังไง ต้องพบเจอหรือต้องปรับตัวกับเรื่องอะไรบ้าง ซึ่งในวันที่เดินทางไปประเทศจีนนั้นก็มีพี่ ๆ Jinbu มาส่งถึงสนามบินเลย ส่งจนวินาทีสุดท้ายจริง ๆ ประทับใจมาก ใครที่สนใจเรียนต่อประเทศจีน มาหา Jinbu เลย รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน รวมถึงมั่นใจได้เลยว่ามีโอกาสสูงที่จะได้ไปเรียนต่อที่ประเทศจีน

สภาพแวดล้อมรอบมหาวิทยาลัย

มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีหูหนาน (湖南科技大学) สำหรับเราก็ใหญ่พอสมควรเลยแหละ ที่นี่มี 3 ประตูใหญ่ หลัก ๆ มี ‘ประตูเหนือ’ หรือที่นักเรียนเรียกกันว่า ‘เป่ยเหมิน’ (北门) และยังมี ‘ประตูใต้’ (หนานเหมิน: 南门) อีกทั้ง ‘ประตูตะวันตก’ (ตงเหมิน; 东门) โดยจะแบ่งเป็น 2 ฝั่งก็คือฝั่งเหนือ (北校) และฝั่งใต้ (南校) มี 2 หอสมุดใหญ่ 3 สนามกีฬาใหญ่ ซึ่งมีพื้นที่สำหรับเล่นกีฬาอีกมากมาย พื้นที่สำหรับเล่นกีฬา จริง ๆ แล้วมีเยอะมากแต่ถ่ายไม่หมด (หัวเราะ) ซึ่งพื้นที่เล่นกีฬาที่มีเยอะที่สุดจะเป็นมหาวิทยาลัยฝั่งใต้ (南校)

ช่วงไหนที่ดอกไม้ออก ทั้งมหาวิทยาลัยจะสวยมาก เพราะเต็มไปด้วยดอกไม้จนคนในมหาวิทยาลัยและคนนอกมหาวิทยาลัยต่างก็พากันมาถ่ายรูป ในวันหยุดสุดสัปดาห์ก็จะมีเด็ก ๆ และคนสูงอายุมาเดินเล่นในมหาวิทยาลัย เพราะที่นี่ร่มรื่น ช่วงที่อากาศเย็น ไม่ร้อนมาก สามารถเดินได้ทั้งวันเลย ชิลล์สุด ๆ

หรือใครที่คิดว่าหูหนานอยู่ทางใต้หิมะจะไม่ตก เราอยากจะบอกว่าที่หูหนานหิมะก็ตกเหมือนกันนะ ซึ่งนาน ๆ ที่หิมะจะตกที่หูหนาน ขนาดคนจีนยังไม่อยากจะเชื่อเลยว่าหูหนานหิมะจะตก เราโชคดีมากที่ไปปีแรกก็ได้เจอหิมะเลย

ด้านการเดินทางไปเรียนตามตึกเรียนก็สะดวก มหาวิทยาลัยกว้างใหญ่ไม่ต้องกลัวเดินเหนื่อยเลย เพราะมีรถรางหลายคัน แถมยังมีมอเตอร์ไซต์ไฟฟ้าให้สแกนใช้อีกด้วย และราคาก็ถูกมาก เพราะรถรางครั้งละ 1 หยวน ส่วนรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าครั้งละ 0.99 หยวน ไม่ต้องกลัวเลยว่าจะไปเรียนไม่ทัน

โรงอาหารและสถานที่ต่าง ๆ

โรงอาหารที่มหาวิทยาลัยนี้มีเยอะมาก มีทั้งหมด 8 โรงอาหารด้วยกัน (ซึ่งเราเองยังไปไม่หมดเลย) อาหารอร่อยมีเยอะมาก ไม่ว่าจะในมหาวิทยาลัยหรือนอกมหาวิทยาลัย ใครมาที่นี่ไม่ต้องกลัวอดเลย เพราะรสชาติอาหารถูกปากคนไทยสุด ๆ นอกจากนี้ก็จะมีตึกเรียนหลัก ๆ อีก 10 ตึก ไม่รวมตึกที่มีชื่อต่างกันไป และสิ่งที่เราชอบที่สุดก็คือที่มหาวิทยาลัยมีคาเฟ่เยอะมากจริง ๆ อร่อยด้วย ที่สำคัญตามคาเฟ่ต่าง ๆ ยังมีที่ให้อ่านหนังสือหลากหลาย หรืออย่างในตัวมหาวิทยาลัยเองก็มีสวนดอกไม้ สวนสาธารณะ มีพื้นที่ร่มรื่นเยอะไว้สำรับพักผ่อนหรืออ่านหนังสือ นอกจากจะมีที่ร่มรื่นและที่อ่านหนังสือเยอะแล้ว ก็มีวิวดี ๆ ทำให้ถ่ายรูปได้รัว ๆ เลย ซึ่งถูกใจสายถ่ายรูปแน่นอน

การเรียนการสอนและเพื่อนต่างชาติ

ในเรื่องการเรียนอาจารย์ก็ช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ถ้ารู้ว่าเราเป็นต่างชาติ ช่วงสอบอาจารย์ก็จะบอกแนวข้อสอบแบบละเอียดเลย ขณะสอนก็มีถามบ้างว่าเรียนเข้าใจไหม ไม่เข้าใจตรงไหนถามได้ สำหรับเราคิดว่าอาจารย์ที่นี่ค่อนข้างใส่ใจนักศึกษาต่างชาติ ขณะเดียวกันการเรียนการสอนของที่นี่ก็จริงจังมากเลยทีเดียว สำหรับคนจีนที่นี่จะเห็นได้ว่าเวลาไปที่ไหนผู้คนจะหยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน ไม่ว่าที่ไหนเขาก็อ่านหนังสือกันได้ โดยเฉพาะเรื่องการเรียนบอกเลยว่าคนจีนขยันมาก สภาพแวดล้อมมีแต่คนอ่านหนังสือ มันทำให้เราเห็นแล้วมีแรงฮึดสู้ที่อยากจะอ่านหนังสือและขยันเหมือนคนจีน นอกจากนี้เรื่องการหาเพื่อนที่นี่คือไม่ยากเลย ถ้าคนจีนรู้ว่าเราเป็นนักเรียนต่างชาติก็จะชอบมาพูดคุยกับเรา ไม่ต้องกังวลเลยว่ามาอยู่ที่ประเทศจีนแล้วจะไม่มีเพื่อน คนจีนนิสัยเป็นกันเองมาก และอาจารย์ก็เช่นกัน

หอพักนักศึกษา

เรื่องการใช้ชีวิตในหอพักนักเรียนก็สบายใจได้ เพราะว่ามหาวิทยาลัยนี้มีคนไทยเยอะพอสมควร คนไทยที่นี่อยู่กันแบบครอบครัวค่ะ มีอะไรก็คอยช่วยเหลือกัน แบ่งปันกัน ไปไหนก็ไปด้วยกัน สบายใจได้เลย

สถานที่ท่องเที่ยวและการเดินทาง

นอกจากนี้แหล่งหาความรู้ ความสนุกสนาน หรือสถานที่สวยงามนั้นก็ไม่ได้มีแต่ในมหาวิทยาลัย เพราะที่หูหนานยังมีสถานที่และแหล่งหาความรู้นอกมหาวิทยาลัยมากมาย เช่น สถานที่โบราณ พิพิธภัณฑ์ ฯลฯ หรือการออกไปหาประสบการณ์นอกมหาวิทยาลัย ออกไปพบเจอคนใหม่ ๆ สถานที่ใหม่ ๆ เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ทำให้เราได้เรียนรู้การเข้าหาผู้คน ตลอดจนเข้าใจวัฒนธรรมจีนมากขึ้น การได้ออกมาเที่ยวนอกมหาวิทยาลัยแน่นอนว่ามีปัญหาบ้าง หลงทางบ้าง อะไรบ้าง แต่อย่าไปกลัวหรือตกใจ เพราะคนจีนพร้อมช่วยเหลือเราเสมอ และเราก็จะได้เรียนรู้จากสิ่งนี้ ไม่ว่าจะการแก้ไขปัญหาด้วยตนเอง ความกล้าที่จะถามผู้คน สิ่งที่เราไม่เคยทำ หรือสิ่งที่เราไม่คุ้นเคย สิ่งเหล่านี้จะทำให้เราเก่งและกล้าที่จะทำอะไรมากขึ้น นอกจากนี้การเดินทางที่ประเทศจีนสะดวกมาก ทั้งรถสาธารณะและรถไฟใต้ดินไม่ได้มีราคาแพง ที่สำคัญประเทศจีนปลอดภัย กฎหมายที่นี่ค่อนข้างเข้มงวด ถ้าเรามีปัญหาอะไรคนจีนเองหรือตำรวจก็พร้อมจะช่วยเหลือเสมอ เขาจะไม่แบ่งแยกว่าคุณมาจากไหน มาจากประเทศอะไร นี่เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เรามาประเทศจีนแล้วประทับใจมาก

ความประทับใจและสิ่งที่อยากบอกรุ่นน้อง

การที่เรามาเรียนที่ประเทศจีนทำให้ได้เห็นมุมมองที่ต่างไปจากประเทศไทย ได้รู้และได้เห็นวิถีชีวิตของผู้คนที่นี่ สิ่งที่เราได้เรียนรู้มากที่สุดหลังจากมาเรียนที่ประเทศจีนก็คือการใช้ชีวิตด้วยตัวคนเดียว การตัดสินใจด้วยตัวเองทำให้เราโตขึ้น การออกไปยังสถานที่ใหม่ ๆ ก็ทำให้เราได้ฝึกใช้ภาษาจีนคำศัพท์ใหม่ ๆ รวมทั้งการฝึกทักษะการฟังภาษาถิ่นที่ยากจะเข้าใจ ได้เปิดมุมมองและเข้าใจการใช้ชีวิตของคนที่นี่ หรือเรียนรู้จากสิ่งที่เราผิดพลาดมากขึ้น สุดท้ายนี้ขอขอบคุณพี่ทีมงาน Jinbu ทุกคน รวมถึงอาจารย์ที่ช่วยสอนติวสัมภาษณ์ พี่ ๆ ทีมงานดูแลดีมาก น่ารักกันทุกคนเลย พูดจาดี ช่วยเหลือทุกขั้นตอน ช่วยตามและแก้ไขเอกสารต่าง ๆ ดูแลดีตั้งแต่ช่วงที่ปรึกษากัน จนกระทั่งยื่นเอกสาร เตรียมตัวก่อนบิน หรือไม่ว่าจะมีปัญหาในประเทศจีน ทีมงานก็พร้อมช่วยเหลือเสมอ แล้วก็ขอฝากถึงน้อง ๆ หรือพี่ ๆ ทุกคนที่กำลังคิดอยากจะมาเรียนที่ประเทศจีนแล้วกำลังหาเอเจนซี่ดี ๆ ไม่ต้องคิดเยอะเลย เลือก Jinbu แล้วจะไม่ผิดหวังแน่นอน