a-level ไม่ได้ดั่งใจ ยังมีคณะที่ใช่รออยู่ที่จีน

เมื่อฉันไปเรียนต่อจีนกับ Jinbu

By น้องไชนีส นักศึกษาทุน Tianjin University of Finance and Economics

“ ดูแลอย่างดีตั้งแต่สมัคร แนะนำข้อมูลมหาวิทยาลัย การเตรียมเอกสาร การทำวีซ่า คอยให้คำปรึกษาจนมาถึงประเทศจีน และคอยติดต่อสอบถามข้อมูลระหว่างที่เราอยู่ที่นี่ เวลามีเรื่องมีปัญหาอะไรก็จะมี พี่ ๆ Jinbu จะคอยดูแลตลอด”

สวัสดีทุกคน เราชื่อนางสาวศิรภัสสร อนันต์ชาญศรี ชื่อเล่น ‘ไชนีส’ กำลังศึกษาอยู่ที่ Tianjin University of Finance and Economics ( 天津财经大学 ) มหาวิทยาลัยการเงินและเศรษฐศาสตร์ของรัฐในเมืองเทียนจิน ก่อตั้งขึ้นในปี 1958 และเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์ประยุกต์และการบริหารธุรกิจที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศจีน ซึ่งเราได้โควตาเรียนปริญญาตรี 4 ปี วันนี้เราจะมาเล่าความประทับใจทั้งก่อนและหลังมาประเทศจีนค่ะ

ความสนใจในการเรียนต่อจีน

ตั้งแต่เด็กเราเคยมีความคิดว่าอยากลองเปิดประสบการณ์ไปเรียนที่ต่างประเทศสักครั้ง พอโตมาเราก็เลือกเรียนสายศิลป์ภาษาจีน เผื่อจะเปิดทางให้เราได้ไปเรียนที่ต่างประเทศ สรุปเรียนไปเรียนมาภาษาจีนกลายเป็นสิ่งที่เราชอบและทำได้ดี รู้สึกมีความสุขตอนที่ได้ใช้มากที่สุด เราเลยเลือกที่จะมาเรียนต่อที่จีนค่ะ

ความสนใจในการเรียนต่อจีน

หอพักนักศึกษาหรือจะเรียกสั้น ๆ ว่า ‘หอใน’ ก็ได้ จะมีทั้งหมด 4 ชั้น โดยชั้น 2 จะราคาอยู่ที่ 1,800 หยวน ส่วนชั้น 3 และชั้น 4 จะอยู่ที่ราคา 1,200 หยวนค่ะ ซึ่งทุกห้องนอนจะเป็นห้องคู่ ที่หอในจะมีห้องครัวและห้องซักผ้ารวมให้ค่ะ อยู่ใกล้ตึกเรียนมาก ๆ สามารถเดินประมาณ 5 นาทีก็ถึงตึกเรียนแล้ว

โรงอาหาร

โรงอาหารที่มหาวิทยาลัยมี 3 ที่ ปริมาณเยอะมาก และราคาเข้าถึงง่าย ที่สำคัญคือมีเมนูเยอะมาก บางร้านเปิดเป็นรอบ และบางร้านเปิดทั้งวัน อาหารที่เทียนจินมีบางอย่างที่รสชาติคล้ายประเทศไทย แต่รสชาติจะค่อนข้างไปทางติดมันและเค็มกว่า

การเรียนการสอน

เชื่อว่าหลาย ๆ คนน่าจะกังวลเรื่องการเรียนกัน เราเลยอยากจะบอกว่าที่นี่เรียนสบาย ๆ เหล่าซือทุกคนใจดีมาก ในเทอมแรกคาบเรียนจะไม่เยอะเพราะทางมหาวิทยาลัยจะปรับพื้นฐานให้เรา ส่วนเทอมสองจะเริ่มมีวิชาเฉพาะเข้ามา (เช่น 中国概况心理健康商业伦理 ) ซึ่งในวิชาที่เพิ่มเข้ามานั้นก็จะขึ้นอยู่กับห้องที่เรียนด้วยค่ะ โดยในปี 1 และปี 2 ทางมหาวิทยาลัยจะให้ทุกคนเรียนกับนักศึกษาต่างชาติเพื่อปรับภาษา ดังนั้นไม่ต้องกังวลว่าจะไปเรียนกับคนจีนแล้วเรียนไม่รู้เรื่องเลย โดยการเรียนจะแบ่งเป็นห้อง ซึ่งการแบ่งห้องจะมีการสอบอ่าน พูด และรวมไปถึงการดูคะแนน HSK ด้วยค่ะ สำหรับใครที่ไม่มี HSK เหล่าซือจะดูจากการอ่านและพูดแทน อย่างที่ได้บอกไปแล้วว่าเหล่าซือทุกคนใจดีมาก ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องกังวลหรือกดดันตัวเองเลยค่ะ ตอนแรกเราก็กลัวค่ะว่าเหล่าซือจะดุ แต่พอมาจริง ๆ ตั้งแต่ตอนที่สอบแบ่งห้อง เหล่าซือจะชวนทุกคนพูดคุยเพื่อให้คลายเครียดก่อนค่ะ พอถึงเวลาเรียน เหล่าซือก็จะมีชวนคุย ตอบคำถามบ้าง ชวนเล่นบ้าง เราบอกเลยว่าเหล่าซือที่นี่ใจดีทุกคน สำหรับนักศึกษาต่างชาติในช่วงปี 1 และปี 2 จะได้เรียนที่ตึกของนักศึกษาต่างชาติโดยเฉพาะ

ในวันที่เจ็บป่วย

เราว่าพ่อแม่หลาย ๆ คนน่าจะกังวลเรื่องนี้ เราเองก็เคยป่วยในช่วงแรก ๆ ที่มาอยู่ที่เทียนจินค่ะ ตรงนี้เราสามารถแจ้งเหล่าซือได้ เพราะที่มหาวิทยาลัยจะมีส่วนที่คอยดูแลนักเรียนต่างชาติโดยเฉพาะ จะมียาเตรียมไว้ให้ ทั้งยาจีน (中药) และยาแผนปัจจุบัน (西药) หรือถ้ากังวลจริง ๆ ว่าทำไมถึงกินแล้วไม่หายสักที เราสามารถไปโรงพยาบาลได้เลยค่ะ สะดวกมาก ๆ ตอนที่เราไปมีพยาบาลที่เข้าใจว่าเราเป็นคนต่างชาติ เขาก็จะค่อย ๆ แนะนำเรา และคอยพาเราไปแต่ละจุด ดูแลดีมากเลยค่ะ ค่ารักษาไม่ต่างจากที่ไทยมากเท่าไหร่ เรื่องประกัน หากค่ารักษาถึงวงเงินที่เขากำหนด ก็สามารถปรึกษาเหล่าซือเรื่องการยื่นประกันได้เลยค่ะ

การเดินทาง

การเดินทางที่นี่มีทั้งรถไฟฟ้า (地铁) และรถเมล์ (公交车) จะเรียกแท็กซี่ที่ตามสถานที่ต่าง ๆ หรือจะเรียกในแอปพลิเคชัน Alipay หรือ Baidu ก็ได้ ซึ่งการเรียกในแอปจะมีราคาจะถูกกว่าการเรียกตามสถานที่ นอกจากนี้ยังมีรถสามล้อค่ะ ราคาจะถูกมากๆ ทั้งยังมีจักรยานเกือบทุกทีของเมือง สามารถสแกนและปั่นได้เลย ในส่วนของมหาวิทยาลัยเทียนจิน ก็จะมีสถานีรถไฟฟ้าที่อยู่ข้างหน้าและเป็นชื่อมหาวิทยาลัยของเราเลยด้วยค่ะ ดังนั้นเรื่องการเดินทางจะสะดวกมาก ๆ แค่เดินไปหน้ามหาวิทยาลัยก็จะถึงรถไฟฟ้าแล้วค่ะ

ความประทับใจและสิ่งที่อยากบอกรุ่นน้อง

พี่ ๆ Jinbu และเหล่าซือคอยให้คำแนะนำที่ดีมาก ๆ ทั้งในเรื่องมหาวิทยาลัย คณะ และเมืองที่คิดว่าเหมาะกับเรามากที่สุด ตอนแรกก็กังวลในเรื่องเอกสารมาก เพราะเราเคยหาข้อมูลจากในอินเทอร์เน็ตด้วยตัวเอง ตอนนั้นรู้สึกว่ามันดูเยอะและยุ่งยากมาก จนมาเจอพี่ ๆ Jinbu ก็เลยสอบถามเรื่องเอกสาร พี่ ๆ ก็แนะนำจนเรารู้สึกว่ามันก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิดไว้ ตั้งแต่เราต้องมีเอกสารคร่าว ๆ อะไรบ้าง ต้องเตรียมอะไรเพิ่ม ควรไปที่ไหน และไปบอกทางเจ้าหน้าที่ว่าอะไร ดูแลอย่างดีตั้งแต่สมัคร แนะนำข้อมูลมหาวิทยาลัย การเตรียมเอกสาร การทำวีซ่า คอยให้คำปรึกษาจนมาถึงประเทศจีน และคอยติดต่อสอบถามข้อมูลระหว่างที่เราอยู่ที่นี่ เวลามีเรื่องมีปัญหาอะไรก็จะมี พี่ ๆ Jinbu จะคอยดูแลตลอด คอยสอบถาม และคอยติดต่อข้อมูลกับมหาวิทยาลัยให้ ขอบคุณทางทีมงาน Jinbu มาก ๆ ค่ะ ดังนั้นสิ่งที่อยากบอกกับรุ่นน้อง เรารู้สึกว่าการมาเรียนที่ต่างประเทศเป็นสิ่งที่ไม่น่ากลัวเลยค่ะ ได้เปิดโลก เปิดประสบการณ์ ทั้งในด้านการเรียนและการใช้ชีวิต ได้เจอสิ่งที่เราไม่เคยเจอ ทำให้เราได้พัฒนาตัวเองอยู่ตลอด การออกมาใข้ชีวิตคนเดียวตอนแรกสำหรับเราเป็นเรื่องที่ยากมากเลยค่ะ แต่พอเราเริ่มปรับตัว เริ่มชินกับสภาพแวดล้อม ทำให้เรารู้สึกสนุก ตื่นเต้นมาก ๆ เลยที่ได้เจอเพื่อนหลายชาติ ได้รู้สิ่งที่เราทำได้และสิ่งที่เราไม่ชอบทำ เรารู้สึกว่าเราคิดถูกที่เลือกมาเรียนที่นี่ และได้มาเจอกับพี่ ๆ Jinbu ค่ะ