
แชร์ประสบการณ์เรียนต่อจีน
By น้องนีโน่ นักศึกษาทุน Tianjin University of Finance and Economics

“ รับรองว่ามากับ Jinbu ไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน ผมอยากขอบคุณที่ทำให้ผมมีโอกาสศึกษาต่อในประเทศจีน”
สวัสดีครับทุกคน ผมชื่อ ‘นีโน่’ ปัจจุบันเป็นนักศึกษาทุนจีนของมหาวิทยาลัย Tianjin University of Finance and Economics หรือชื่อภาษาจีนก็คือ 天津财经大学 สาขาการจัดการโลจิสติกส์ มากับ Jinbu Study in China ครับ
ความสนใจในการเรียนต่อจีน และทำไมต้องเป็น Jinbu
ก่อนอื่นขอบอกว่าผมนั้นได้เรียนศิลป์ภาษาจีนมาก่อนแล้ว พอช่วง ม. 6 ผมเริ่มมีความคิดที่อยากจะไปเรียนต่อประเทศจีน แต่ตอนนั้นยังไม่มีคะแนนสอบอะไรสักอย่างผมจึงลงสมัครสอบ HSK4 ไป จำได้ว่าตอนนั้นผมมีเวลาอ่านหนังสือแค่ 15 วัน เพราะผมเรียนไปด้วยอ่านหนังสือไปด้วย ทำให้มีเวลาไม่มากระหว่างคำศัพท์ 1200 คำ กับเวลาที่เหลือน้อยนิด ตอนนั้นผมแทบจะไม่กินข้าวเลยด้วยซ้ำเพราะเครียดมาก ไหนจะเรื่องกิจกรรมโรงเรียนอีก ผมเริ่มอ่านจากคำศัพท์และเริ่มนำข้อสอบฉบับเก่า ๆ ออกมาทำวันละ 2 ฉบับ จนกระทั่งวันสอบมาถึง ผมตื่นเต้นมากครับ แต่เมื่อเปิดข้อสอบมานั้นผมก็ยิ้มขึ้นมาเพราะมันเป็นศัพท์ที่ผมอ่านมาหมดแล้ว เมื่อถึงวันประกาศผลสอบปรากฎว่าคะแนนสอบออกมาดีใช้ได้ ตอนนั้นทุกอย่างมันโล่งไปหมดเลยครับ
และแล้วผมก็เริ่มสนใจมองหาทุน ซึ่งทุนของประเทศจีนมีหลากหลายทุนมาก ผมเองก็ไม่รู้ว่าจะเลือกทุนแบบไหน และก็ไม่มีความรู้ในเรื่องเอกสารเลย จึงจำเป็นต้องหาเอเจนซี่ที่จะช่วยผมในเรื่องนี้ ระหว่างที่กำลังหาทุน ผมก็ศึกษาเรื่องเอเจนซี่อยู่หลายวัน จนเพื่อนผมได้แนะนำ Jinbu study in China ผมจึงนั่งศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเอเจนซี่นี้ว่าดีอย่างไรบ้างถ้าเทียบกับที่อื่น ๆ เลยทำให้ผมตัดสินใจที่จะเลือก Jinbu นั่นเองครับ เพราะจากการอ่านรีวิวในปีที่ผ่านมามันน่าสนใจมาก จนทำให้ผมอยากมาเขียนรีวิวต่อให้รุ่นน้องในปีหน้าได้อ่านกันครับ
เกี่ยวกับมหาวิทยาลัย

มหาวิทยาลัย Tianjin University of Finance and Economics หรือ 天津财经大学 ตั้งอยู่ในเมืองเทียนจิน เขตเหอซี (河西区) มีด้วยกัน 2 วิทยาเขต โดดเด่นด้านการศึกษาด้านการเงินและเศรษฐศาสตร์ มีคณะอาจารย์ที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ทางวิชาการและธุรกิจ ทั้งยังมีความร่วมมือกับองค์กรภาครัฐและเอกชนในการพัฒนานวัตกรรมทางการเงินและการบริหารจัดการทางธุรกิจในภูมิภาคและระดับโลก ซึ่งเมืองเทียนจินจะอยู่ติดกับปักกิ่ง ใช้เวลาเดินทางโดยรถไฟความเร็วสูง (高铁) ประมาณ 30 นาที

สภาพแวดล้อมรอบ ๆ มหาวิทยาลัย
Tianjin University of Finance and Economics เป็นมหาวิทยาลัยที่มีขนาดกว้าง สภาพแวดล้อมภายในมหาวิทยาลัยมีต้นไม้เยอะ ที่สำคัญยังสะอาดมาก ซึ่งจะมีพนักงานที่คอยกวาดใบไม้ในทุก ๆ เป็นอะไรที่ดีมาก ทำให้ดูสบายตา ตึกเรียนมีหลากหลายตึก ตึกเรียนของนักศึกษาต่างชาติจะแยกกับนักศึกษาจีน รอบ ๆ มหาวิทยาลัยจะมีจักรยานให้สแกนในหลายจุด ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาเดิน ถ้าหากเราซื้อโปรเช่าจักรยานแบบรายเดือนก็จะคุ้มกว่า ทางด้านหน้ามหาวิทยาลัยของเราจะมีรถไฟฟ้าหรือที่เรียกกันว่าระบบขนส่งมวลชนเร็ว (地铁) อยู่ติดกับประตูทางออก D ซึ่งเราสามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวกสบาย



และนอกจากนี้ยังมีสนามฟุตบอล สนามบาสเก็ตบอล สนามเทสนิส สนามแบดมินตัน รวมถึงโรงยิม ซึ่งเราสามารถจองสนามผ่านแอปพลิเคชันมหาวิทยาลัยเพื่อที่จะเล่นได้ และอีกสิ่งที่อยากจะนำเสนอเลยก็คือสระว่ายน้ำที่นี่ใหญ่มาก แต่ช่วงหน้าหนาวจะไม่ค่อยมีคนเข้ามาใช้บริการเท่าไหร่ ที่มหาวิทยาลัยเทียนจินจะมีกิจกรรมให้นักเรียนต่างชาติได้เข้าร่วม มีทั้งการแข่งขันเต้น แข่งขันร้องเพลง หรือแม้แต่แข่งขันกีฬา เช่น วอลเลย์บอล ฟุตบอล และกีฬาอื่น ๆ อีกมากมาย ในแต่ละกิจกรรมนั้นก็จะมีเหล่าซือคอยแจ้งให้นักเรียนทุกคนทราบ ล่าสุดก็ได้มีการแข่งขันวอลเลย์บอลของทีมต่างชาติกับทีมคนจีน เป็นการแข่งขันที่ดุเดือดและสนุกมากครับ



ในช่วงเวลาตอนเย็นของทุกวัน แถวบริเวณหลังมหาวิทยาลัยจะมีของกินขายเป็นแถวยาว ๆ มีทั้งถังหูลู่ (烤冷面) ทาโกะยากิ ชานม ผลไม้ ไก่ย่าง ฯลฯ ซึ่งราคาไม่แพงเลยครับ เดินไปอีกนิดก็จะเห็นหอพักคนจีนอยู่ติดกัน หรือถ้าเดินตรงไปอีกเรื่อย ๆ ก็จะมีห้างสรรพสินค้า ซึ่งละแวกนั้นก็จะเต็มไปด้วยร้านค้าอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ร้านขนมปัง ร้านตัดผม ร้านอินเทอร์เน็ต ธนาคาร ใช้เวลาเดินไปประมาณ 5 นาทีก็ถึงแล้วครับ หรือจะปั่นจักรยานก็ได้ครับ


ห้องสมุด
อยากจะบอกว่าห้องสมุดมหาวิทยาลัยสวยและใหญ่มาก บรรยากาศเต็มไปด้วยความเงียบ เงียบในที่นี้คือแบบที่ไม่เคยเงียบมาก่อน จะมีการสแกนใบหน้าตรงทางเข้าครับ ช่วงใกล้สอบจะมีคนมาใช้บริการเยอะมาก ใครชอบอ่านหนังสือต้องมามหาวิทยาลัยเทียนจินเลยครับ


หอพักนักศึกษา
หอพักนักศึกษาต่างชาตินั้นมีด้วยกันทั้งหมด 4 ชั้น ที่ชั้นล่างจะมีน้า ๆ คอยดูแลความปลอดภัยให้พวกเรา ส่วนชั้น 2 เป็นห้องซักผ้าและตากผ้า มีเครื่องซักผ้าที่สามารถสแกนจ่ายได้ สามารถเลือกราคาได้ตั้งแต่ 1-4 หยวน หรือประมาณ 5-20 บาท ส่วนที่ชั้น 3 จะเป็นห้องครัวสามารถนำอาหารมาทำกินได้ ราคาของห้องพักก็จะแตกต่างกันไป ส่วนตัวผมอยู่มาเทอมกว่าแล้วก็ไม่ได้รู้สึกว่าแย่ เพราะอยู่ใกล้กับโรงอาหารและตึกเรียนด้วย หิวตอนไหนก็เดินลงไปกินข้าว สะดวกสุด ๆ






โรงอาหาร
มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 แห่ง แต่ละแห่งก็จะมีเมนูแตกต่างกันไป ส่วนเรื่องรสชาติอาหารอยากจะบอกว่าอร่อยมาก มีให้เลือกหลากหลายเมนู ทั้งหม่าล่า อาหารเกาหลี เกี๊ยว และอื่น ๆ อีกมากมาย ราคาก็พอ ๆ กับที่ไทย โรงอาหารที่แรกมีร้านสะดวกซื้ออยู่ข้าง ๆ ถัดมาคือโรงอาหารที่ 2 จะอยู่ติดกับหอพักชาวต่างชาติ ตามด้วยโรงอาหารที่ 3 จะอยู่ข้างหอพักคนจีน ซึ่งโรงอาหารที่ 3 เป็นโรงอาหารที่ใหญ่สุด มีด้วยกันทั้งหมด 3 ชั้น ในแต่ละชั้นก็จะขายอาหารในเมนูหลากหลายแบบ โดยจะเป็นอาหารตักทั้งหมดในราคาเพียง17 หยวน หรือประมาณ 85 บาท เมนูเยอะมาก รับรองไม่เบื่อแน่นอน



ตึกเรียน เพื่อนต่างชาติ และอาจารย์
ตึกเรียนของผมเป็นตึกเรียนของต่างชาติโดยเฉพาะ เพื่อนร่วมห้องก็มีชาวต่างชาติปะปนกันไป แต่ละคนก็ตั้งใจเรียนและน่ารักกันมาก คอยช่วยเหลือกันและกัน มีปัญหาอะไรก็จะสามัคคีกันมาก ส่วนเหล่าซือก็ใจดี หากสงสัยตรงไหนให้ถามเหล่าซือได้ เพราะเหล่าซือนั้นเข้าใจว่าเราเป็นชาวต่างชาติ จึงค่อย ๆ สอนทำให้เราไม่กดดันและไม่เครียดมากจนเกินไป ทำให้การเรียนสนุกยิ่งขึ้น หรือถ้าเราเจอปัญหาที่ยากจะแก้ไขก็สามารถให้เหล่าซือที่ปรึกษาช่วยเราแก้ปัญหานั้นได้

การเรียนการสอน
ในชั้น ปี 1 กับปี 2 เราจะยังไม่ได้เรียนกับคนจีน เพราะต้องมีการปรับพื้นฐานภาษาของเราก่อน โดยเทอม 1 จะมีวิชาหลัก ๆ ด้วยกัน 5 วิชา คือ 1. วิชาคณิตศาสตร์(เรียนแคลคูลัส) 2. วิชาภาษาอังกฤษ 3. วิชาธุรกิจภาษาจีน 4. วิชาการอ่านและการฟังภาษาจีน(เรียนศัพท์ HSKและไวยากรณ์) และ 5. วิชาพละ(เรียนการรำไทเก๊กและวอลเลย์บอล) ส่วนเทอม 2 จะมีวิชาเพิ่มเติมเข้ามา เช่น วิชาความรู้ทั่วไปของประเทศจีน , วิชาจริยธรรม , วิชาจิตวิทยา เป็นต้น ซึ่งวิชาที่เรียนเหล่านี้จะถูกนำไปใช้ในตอนปี 3 อย่างแน่นอน เนื้อหาของการเรียนการสอนนั้นไม่ได้ยากจนเกินไป เพราะเขาจะมีการปูพื้นฐานให้เราก่อนเริ่มเรียน ส่วนใครที่กังวลว่าจะเรียนตามเพื่อนไม่ทันนั้นไม่ต้องกังวลเลยครับ ทางเหล่าซือใจดีมาก ๆ ท่านจะคอยถามเราตลอดว่าเข้าใจหรือเปล่า


ค่าครองชีพ
ค่าใช้จ่ายในเมืองนี้ไม่แพงเลยครับถ้าเทียบกับกรุงเทพบ้านเรา การคมนาคมหรือการเดินทางมีราคาที่ถูกมากครับ เช่น ค่ารถเมล์ตลอดสายเพียงแค่ 2 หยวน หรือ 10 บาท ส่วนเรื่องของกินหากทำอาหารกินเองก็จะประหยัดได้มากกว่าเดิมอีกครับ เพราะผักหรือเนื้อสัตว์ที่นี่ก็ไม่ได้ต่างจากไทยเลย ผมเองก็เคยทำอาหารกินเอง อาทิตย์นึงไปตลาดสดซื้อเนื้อสัตว์กับผักมาทำอาหารใช้ไปประมาณ 500 บาทไทย และถ้ายิ่งหารกับเพื่อนอีกก็ตกคนละ 250 บาทครับ ซึ่งประหยัดค่ากับข้าวได้ไปอีกเยอะเลย ทำให้มีเงินเก็บเพิ่มขึ้นอีกครับ

สภาพอากาศในฤดูหนาว
ช่วงหน้าหนาวจะเริ่มประมาณช่วงตุลาคมถึงกลางเดือนเมษายน เดือนที่หนาวที่สุดคือเดือนธันวาคมและมกราคมอุณหมูจะอยู่ที่ประมาณ 20 องศาเซลเซียสครับ จะมีหิมะตกบ้างในบางช่วง บอกเลยว่าหนาวสุด ๆ ใครที่อยากที่ชอบอากาศหนาวและอยากเห็นหิมะ แนะนำว่าให้มาเมืองนี้เลยครับ รับรองไม่ผิดหวัง แต่อากาศโดยทั่วไปคือแห้งมาก เพราะฉะนั้นอย่าลืมทาบอดี้โลชั่นกันด้วยนะครับ

การเดินทาง
การเดินทางจะมีทั้ง รถไฟฟ้า รถเมล์ จักรยาน สะดวกสบายและราคาถูกอีกด้วย รถเมล์ตลอดสายเพียงแค่ 10 บาท ส่วนรถไฟฟ้าเราสามารถซื้อตั๋วที่สถานีได้ หรือจะโหลดแอปพลิเคชั่นรถไฟใต้ดินเทียนจิน (天津地铁) แต่ผมมีอีกวิธีที่อยากแนะนำคือการใช้ Apple Wallet (เฉพาะ ios) โดยการเติมเงินเข้าไปครั้งละเท่าไหร่ก็ได้ และเมื่อถึงที่สแกนตั๋วให้วางโทรศัพท์แตะลงไป แค่นี้ก็สามารถขึ้นรถไฟฟ้าได้อย่างรวดเร็วและไม่ต้องเสียเวลาซื้อตั๋วอีกด้วย

สถานที่ท่องเที่ยว
สถานที่ผมไปเที่ยวเล่นบ่อย ๆ เลยก็คือ Bin Jiang Dao (滨江道) เป็นถนนคนเดินยอดฮิตของเหล่าวัยรุ่นเทียนจินที่ผมกับเพื่อน ๆ ได้ไปเดินบ่อยมาก มีทั้งห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ พวกเสื้อผ้า รองเท้า ของกิน และอีกสถานที่ไปเดินบ่อยอีกนั่นก็คือ เทียนจินอาย (TianJin eye: 天津之眼) ซึ่งถือเป็นแลนด์มาร์คที่สำคัญของเทียนจินเลยก็ว่าได้ ที่สำคัญค่าครองชีพที่นี่ใกล้เคียงกับประเทศไทย ถือว่าคุ้มค่าสุด ๆ ที่ได้มาเมืองนี้
ความประทับใจและสิ่งที่อยากบอกรุ่นน้อง
น้องที่กำลังคิดหรือลังเลที่จะมาประเทศจีนแล้วกังวลว่าจะอยู่ไม่ได้ พี่อยากจะบอกน้อง ๆ ว่าไม่ต้องกังวล ให้ลองดูสักครั้ง มันเป็นประสบการณ์ที่หาไม่ได้จากที่ไทย ทั้งการสอนที่ต่างกัน เพื่อน สังคม การใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป และภาษาที่ทำให้เราเก่งขึ้นโดยเฉพาะการฟังและการพูด ซึ่งทำให้เราได้เติบโตขึ้นมาก ๆ และสิ่งที่สำคัญที่สุดของการอยู่จีนเลยก็คือการเอาตัวรอดให้เก่ง พี่เชื่อว่าน้อง ๆ หลายคนทำได้ เพราะพี่เองก็เป็นคนที่ไม่กล้าออกมาใช้ชีวิต ชอบอยู่แต่ในบ้าน จนได้มาจีนเพื่อเปิดโลกกว้าง ได้ไปสถานที่เที่ยวต่าง ๆ ได้รู้จักเพื่อนต่างชาติที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้วัฒนธรรมทั้งของจีนและประเทศอื่น ๆ ทำให้เรามีคอนเนคชั่นจากเพื่อนต่างชาติต่าง ซึ่งอาจจะทำให้ได้ภาษาที่ 4 ด้วย สุดท้ายนี้อยากจะฝากจิ้นปู้ไว้ในการตัดสินใจของน้อง ๆ รับรองว่ามากับ Jinbu ไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน ผมอยากขอบคุณที่ทำให้ผมมีโอกาสศึกษาต่อในประเทศจีน ช่วยเหลือทั้งด้านเอกสาร ซึ่งตอนนั้นผมกล้า ๆ กลัว ๆ ที่จะสมัคร เพราะไม่มีความรู้อะไรเกี่ยวกับการยื่นทุนเลย อีกทั้งยังให้คำปรึกษาเกี่ยวกับปัญหาที่ผมสงสัย ช่วยเลือกและแนะนำมหาวิทยาลัย ช่วยจองตั๋วเครื่องบิน มีกิจกรรมแนะแนวก่อนจะบิน และเมื่อถึงวันที่บินก็มีเหล่าซือมาส่งและมารับที่สนามบิน จนทำให้ผมได้มั่นใจและเชื่อมั่นในการทำงานของจิ้นปู้ว่าเค้าดูแลเราดีจริง ๆ ถึงแม้ว่าเรามาอยู่จีนแล้ว ทาง Jinbu ก็ยังมาเยี่ยมเยือนเราอยู่เสมอ และคอยถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง มีปัญหาอะไรไหม เหมือนคอยดูแลเราอยู่เสมอไม่หายไปไหน ผมอยากจะแนะนำน้อง ๆ ทุกคนที่กำลังหาเอเจนซี่ดี ๆ ที่คอยช่วยเหลือและให้คำปรึกษาทุก ๆ อย่าง ไม่ว่าจะก่อนมาจีนหรือหลังมาจีนแล้วก็ตาม อยากแนะนำเอเจนซี่ Jinbu Study in China ผมรู้สึกประทับใจมาก ไม่ผิดหวังจริง ๆ ที่เลือกเอเจนซี่นี้ ขอบคุณจริง ๆ ครับ
