a-level ไม่ได้ดั่งใจ ยังมีคณะที่ใช่รออยู่ที่จีน

แชร์ประสบการณ์การศึกษาต่อที่ประเทศจีนกับ Jinbu

By พี่เนย นักศึกษาทุน Zhejiang Ocean University

“ เหตุการณ์ที่พี่เนยประทับใจที่สุดคือเรื่องที่มีน้องคนไทยที่มาด้วยกันป่วยไข้ขึ้นสูง แต่เมื่อทาง Jinbu ทราบข่าว ก็ได้รับการติดต่อจากเหล่าซือที่ประจำอยู่ที่ประเทศจีน ประสานงานให้รุ่นพี่คนจีนในมหาวิทยาลัยพาไปหาหมอ”

สวัสดีค่ะพี่ชื่อนางสาวสรชา สุริยะพันธุ์พงศ์ ชื่อเล่น เนยนะคะ (许秋意) จาก Zhejiang Ocean University (浙江海洋大学) ปริญญาโท คณะการท่องเที่ยวค่ะ พี่เนยเข้าร่วมโครงการ ป.โท 1+3

เริ่มแรกที่วางแผนมาเรียนต่อจีนเพราะได้มีโอกาสมาเที่ยวที่กวางโจวโดยมากันเองกับครอบครัว ในครั้งนั้นที่มาจะมีลุงและพี่สาวที่พานำเที่ยว แต่เกิดปัญหาบางอย่างทำให้ไม่สามารถเดินทางมาพร้อมกันได้ เราจึงต้องรับหน้าที่พาครอบครัวเที่ยว ซึ่งตอนนั้นพอได้ภาษาจีนบ้าง เวลาไปซื้อของหรือพบเจอคนจีนที่เข้ามาทักทายเมื่อเขารู้ว่าเราเป็นคนไทย เขาก็ให้การต้อนรับเราดีมาก และนั่นคือจุดเริ่มต้นที่อยากจะมาเรียนต่อที่ประเทศจีนค่ะ

ความสนใจในการศึกษาต่อที่ประเทศจีน ทำไมต้องเป็น Jinbu

พี่เนยได้รู้จัก Jinbu จากทางเพจเฟซบุ๊กและในกลุ่มเรียนต่อจีน ในตอนแรกคุณพ่อเป็นกังวลว่าเชื่อถือได้ไหม จนเวลาผ่านไป 1 ปี หลังเรียนจบได้กลับมาหาข้อมูลเรียนต่ออีกครั้ง รวมถึงได้หาข้อมูลเกี่ยวกับ jinbu จนทราบว่าตั้งอยู่ที่จามจุรีสแควร์ จากนั้นเลยพาคุณพ่อและพี่สาวไปคุยเรื่องรายละเอียดต่าง ๆ โดยวันนั้นได้เข้าไปคุยและเกิดความประทับใจมาก เนื่องจากได้พบกับพี่ยา ครูแนะแนว ซึ่งพี่ยาได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ แนะนำมหาวิทยาลัยที่เรามีโอกาสได้แน่นอน จากนั้นเขาก็จะให้เราเลือกมหาวิทยาลัยและอธิบายจนคุณพ่อเข้าใจและเชื่อมั่นให้สมัครกับโครงการของ Jinbu

หลังจากตัดสินใจสมัครเข้าร่วมโครงการแล้ว ก็เป็นขั้นตอนของการเตรียมเอกสาร โดยพี่ ๆ ทีมงานให้การช่วยเหลือดีมาก มีการอธิบายการเตรียมเอกสารต่าง ๆ แล้วต่อจากนั้นจะเป็นขั้นตอนของการรอใบตอบรับจากมหาวิทยาลัย ในขั้นตอนนี้ทางมหาวิทยาลัยจะส่งใบตอบรับค่อนข้างนาน พี่เนยได้ทำการติดต่อสอบถามจากพี่ยา และพี่ยาก็คอยอัปเดตให้เสมอ เพราะการมาเรียนต่อครั้งนี้คือโอกาสสุดท้าย ถ้าไม่ได้มาเรียนในครั้งนี้ พี่เนยก็จะไม่ได้เรียนต่อแล้ว แต่พี่ยาก็ยืนยันว่าโอกาสที่จะได้เข้าเรียนที่นี่มีสูงมาก จึงหมดความกังวลจนเรื่องใบตอบรับจากมหาวิทยาลัย หลังจากนั้นจะเป็นการจองตั๋วเครื่องบิน นอกจากจะมีพี่ ๆ ทีมงานที่ดูแลแล้ว ยังมีเหล่าซือที่คอยช่วยเหลือเรื่องการจองตั๋วเครื่องบินและติดต่อสอบถามทางมหาวิทยาลัยให้ จนทุกอย่างผ่านไปด้วยดี

จนใกล้ถึงวันเดินทาง เชื่อว่าทุกคนต้องมีความกังวลเดี่ยวกับการไปต่างประเทศเพียงลำพังโดยไม่มีผู้ปกครองไปด้วย ถึงแม้จะมีน้อง ๆ ที่ร่วมทางกันไปอีกหลายคนพี่เนยก็ยังมีความกังวล แต่ความกังวลนั้นก็ได้หายไปเพราะเมื่อไปถึงสนามบินนั้นมีพี่ ๆ ทีมงานคอยช่วยเหลือในเรื่องเช็คอินและส่งเข้า Gate และเมื่อมาถึงประเทศจีน ก็มีพี่ยาและเติ้งเหล่าซือคอยรอรับพร้อมกับรุ่นน้องคนจีน 1 คน ซึ่งการเดินทางในครั้งนี้พี่ยาและเติ้งเหล่าซือได้อยู่กับเราประมาณ 2-3 วัน ตอนนั้นเราเริ่มปรับตัวกับสภาพแวดล้อมและอาหารที่นี่ได้แล้ว ทำให้ความกังวลที่รู้สึกก่อนที่จะเดินทางมาประเทศจีนนั้นหายไปในทันที

เกี่ยวกับมหาวิทยาลัย

Zhejiang Ocean University เป็น 1 ใน 6 ของมหาวิทยาลัยติดทะเลในประเทศจีน โดดเด่นในเรื่องของการศึกษาด้านทรัพยากรทางทะเลที่เชื่อถือได้ทั้งในประเทศจีนและทั่วโลก ซึ่งมหาวิทยาลัยนี้มี 2 วิทยาเขต ได้แก่ วิทยาเขตติงไห่ (Dinghai: 定海) และวิทยาเขตซินเฉิง (Xincheng: 新城) หรือ changzhi (长峙) ซึ่งพี่เนยเรียนอยู่ที่วิทยาเขตซินเฉิงนั่นเอง

สภาพแวดล้อมรอบ ๆ มหาวิทยาลัย

วิทยาเขตนี้มีทะเลล้อมรอบและมีขนาดใหญ่จึงมีสถานที่ทำกิจกรรมมากมาย จุดเด่นของที่นี่ก็คือห้องสมุดที่กว้างขวาง เหมาะกับการมานั่งอ่านหนังสือสอบ ขณะเดียวกันมหาวิทยาลัยยังมีการจัดส่วนต่าง ๆ ออกเป็นโซน ได้แก่ โซนหอพัก โซนตึกเรียน นอกจากนี้ยังมีร้านสะดวกซื้อ ร้านตัดแว่น ร้านตัดผม ร้านขายผลไม้ ร้านข้าวแกงกะหรี่ CoCo ICHIBANYA ร้านซักรีด และสถานที่รับพัสดุ โดยมีสถานีตำรวจและสถานพยาบาลภายในมหาวิทยาลัยซึ่งค่อนข้างสะดวกมาก อีกทั้งยังมีสถานที่เล่นกีฬาทั้งในร่มและกลางแจ้ง ไม่ว่าจะเป็น เทนนิส แบดมินตัน บาสเกตบอล วอลเลย์บอล ปิงปอง ฟุตบอล และมีห้องออกกำลังกายอีกด้วย

โรงอาหาร

นอกจากนี้ที่นี่ยังมีโรงอาหารทั้งหมด 2 ตึก โรงอาหารตึกที่ 1 จะมีทั้งหมด 3 ชั้น โดยชั้นที่ 1 จะเป็นโรงอาหารของมหาวิทยาลัย อาหารมีราคาถูกมาก แต่จะเปิดเป็นเวลาตามมื้ออาหารเช้า กลางวัน และเย็น ในชั้น 2 และ 3 จะเป็นร้านอาหารที่มาจากภายนอก ราคาจะสูงขึ้นมาจากชั้น 1 แต่ก็ถือว่ายังราคาถูกอยู่ และโรงอาหารตึกที่ 2 จะมีแค่ชั้นเดียว ซึ่งมีอาหารหลากหลายเลือกทานได้ มีร้านเครื่องดื่มชาและไอศกรีม MIXUE อยู่ที่โรงอาหารนี้ นอกจากโรงอาหารแล้วในมหาวิทยาลัยยังมีโซนอาหารอีก โดยจะอยู่ตรงข้ามโรงอาหารตึกที่ 1

หอพักนักศึกษา

ในส่วนของหอพัก พี่เนยจะพักรวมกับนักเรียนต่างชาติ ถึงแม้จะเป็นตึกรวม แต่หอพักจะมีการแบ่งชั้นไว้อย่างชัดเจนว่าผู้หญิงอยู่ชั้นบน ส่วนผู้ชายอยู่ชั้นล่าง โดยในแต่ละชั้นจะมีห้องน้ำและห้องครัว ซึ่งเราสามารถทำอาหารได้ ด้านห้องน้ำจะเป็นห้องรวม มีเครื่องซักผ้า และเครื่องอบผ้า ค่อนข้างสะดวกสบายมาก ในส่วนนี้จะมีน้าที่ดูแลหอพักคอยทำความสะอาดให้ทุกเช้า รวมถึงทางเดินด้วย

การเรียนการสอน

เนื่องจากพี่เนยมาเรียนปรับภาษา 1 ปี ตั้งแต่เริ่มเรียนวันแรก เหล่าซือจะเข้าใจว่าเด็กต่างชาติแต่ละประเทศจะมีปัญหาไม่เหมือนกัน เช่น คนรัสเซีย จะมีปัญหาที่การออกเสียงวรรณยุกต์ และคนไทยจะมีปัญหาเรื่องการออกเสียง j q x zh ch sh ดังนั้นเขาจะเริ่มปรับให้เราไปเรื่อย ๆ เหล่าซือทุกคนสอนสนุก ไม่เครียด และค่อนข้างเป็นกันเองกับคนไทย เราสามารถถามในส่วนที่ไม่เข้าใจได้เลย ซึ่งแน่นอนว่าเหล่าซือจะมีคำอธิบายที่ทำให้เราเข้าใจมากขึ้นด้วย

เพื่อนต่างชาติ

เพื่อนในห้องเราทั้งหมดจะเป็นคนต่างชาติ ดังนั้นเราจะได้เพื่อนต่างชาติแน่นอน ขณะเดียวกันเราสามารถหาเพื่อนคนจีนได้ผ่านการทำกิจกรรมและการเข้าไปคุยแลกเปลี่ยน WeChat เพราะคนจีนที่นี่ถ้ารู้ว่าเราเป็นคนต่างชาติและเป็นคนไทย เขาก็อยากจะเป็นเพื่อนกับเรา ตั้งแต่มาถึงที่นี่ พี่เนยได้รับโอกาสจากเหล่าซือให้เข้าร่วมโครงการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโครงการที่พานักเรียนต่างชาติเชื้อสายจีนเยี่ยมชมเมืองโจวซาน นี่เป็นการมาเยือนของนักเรียนต่างชาติจากมหาวิทยาลัยในเซียงไฮ้ ทำให้พี่เนยได้รู้จักเพื่อนต่างชาติและเพื่อนคนจีนจากมหาวิทยาลัยเดียวกันด้วย นอกจากนี้พี่เนยยังได้รู้จักเพื่อน ๆ จากต่างมหาวิทยาลัยผ่านแอปพลิเคชันโต๋วอิน (TikTok: 抖音) ซึ่งเพื่อน ๆ นั้นมาจากมหาวิทยาลัยนานาชาติทางทะเลเจ้อเจียงที่อยู่ไม่ไกลกันมาก ทำให้ได้แลกเปลี่ยนความคิดและภาษา

นอกจากนี้มหาวิทยาลัยยังมีชมรมให้เข้าร่วมอีกมากมาย พี่เนยได้เข้าร่วมชมรมดนตรีพื้นบ้านจีน ชมรมสเก็ตบอร์ด และชมรมภาษาจีน ซึ่งชมรมภาษาจีนเป็นชมรมที่แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกันระหว่างคนจีนและคนต่างชาติซึ่งถือเป็นชมรมที่ดี และนอกจากมิตรภาพในมหาวิทยาลัยแล้ว มิตรภาพนอกรั้วมหาวิทยาลัยพี่เนยก็มีเช่นกัน ไม่ว่าจะไปที่ไหน ถ้าเขารู้ว่าเราเป็นคนต่างชาติ เป็นคนไทย เขาจะให้การต้อนรับเราดีมาก และคำถามที่คนจีนชอบถามก็คือ “ทุเรียนที่ไทยแพงไหม ราคาเท่าไหร่” เมื่อไม่นานมานี้พี่เนยได้รับเลือกเป็นหนึ่งในตัวแทนนักเรียนต่างชาติให้ไปแข่งขันอ่านภาษาจีนที่เมืองหางโจวด้วย จะเห็นได้ว่ามหาวิทยาลัยมีกิจกรรมสำหรับนักเรียนต่างชาติ เพื่อเปิดโอกาสให้เราได้แสดงความสามารถได้อย่างเต็มที่

ความประทับใจและสิ่งที่อยากบอกรุ่นน้อง

ทางพี่ ๆ Jinbu ช่วยเหลือพี่เนยตั้งแต่หามหาวิทยาลัยที่เหมาะสม ช่วยดำเนินเรื่องเอกสาร รวมถึงการติดตามความคืบหน้าต่าง ๆ กับทางมหาวิทยาลัย หลังจากพี่เนยได้ใบตอบรับการเข้าเรียนจากมหาวิทยาลัยแล้ว ทางทีมงานยังช่วยเหลือเรื่องของการทำวีซ่า เตรียมเอกสาร จนกระทั่งวันเดินทางก็มีเหล่าซือ และพี่จาก Jinbu มารอรับที่สนามบินและพามาส่งที่มหาวิทยาลัย ซึ่งทำให้เราอุ่นใจมากขึ้น หลังจากนั้นยังมีเหล่าซืออีกท่านประจำอยู่ที่ประเทศจีนคอยให้การช่วยเหลืออยู่อีกด้วย เหตุการณ์ที่พี่เนยประทับใจที่สุดคือเรื่องที่มีน้องคนไทยที่มาด้วยกันป่วยไข้ขึ้นสูง แต่เมื่อทาง Jinbu ทราบข่าว ก็ได้รับการติดต่อจากเหล่าซือที่ประจำอยู่ที่ประเทศจีน ประสานงานให้รุ่นพี่คนจีนในมหาวิทยาลัยพาไปหาหมอ นอกจากนี้ทาง Jinbu ยังคอยติดตามผลสอบ HSK 4 ว่าเราสอบผ่านไหม แล้วยื่นให้กับมหาวิทยาลัยเรียบร้อยหรือยัง ทำให้ทางผู้ปกครองวางใจได้มากขึ้นทีเดียวค่ะ