Early Bird - โปรโมชั่นโครงการเรียนต่อจีน ปี 68 ที่ทุกคนอยากได้

ประสบการณ์เรียนต่อจีนกับ Jinbu ที่ฉันอยาก share!

By น้องเบลล์ นักศึกษาทุน Shantou University โครงการทุนเรียนต่อจีน 1+4 ที่ Jinbu ดูแล

“ ขอขอบคุณ Jinbu ที่คอยดูแลหนูมาตั้งแต่ก่อนสมัคร แม้กระทั่งตอนที่บินมาถึงที่ประเทศจีนแล้ว ทาง Jinbu ก็ยังมาส่งถึงมหาวิทยาลัย ”

สวัสดีค่าทุก ๆ คน 大家好！เราชื่อเบลล์ ชื่อภาษาจีน马昕悅 คะ ตอนนี้เรียนภาษาจีนอยู่ที่ Shantou University (汕头大学) หรือมหาวิทยาลัยซ่านโถวนั่นเองค่ะ เราจะมาเล่าประสบการณ์เรียนต่อจีน และความประทับใจการใช้บริการ Jinbu ค่ะ

ก่อนที่จะเริ่มเล่าประสบการณ์เรียนต่อจีน ก่อนอื่นขอเริ่มด้วยการเล่าสภาพแวดล้อมของมหาวิทยาลัยที่เรามาเรียนก่อนนะคะ ที่นี่จะถูกล้อมรอบไปด้วยภูเขา สองข้างทางเต็มไปด้วยต้นไม้ ช่วงนี้เริ่มเข้าหน้าร้อน อุณหภูมิจะอยู่ที่ประมาณ 25 – 32°C ช่วงตอนกลางวันแดดจะค่อนข้างแรง จะทำให้เห็นนักศึกษาบางคนเดินสวมหมวกไปเรียนบ้าง กางร่มไปเรียนบ้าง แต่นักศึกษาบางคนก็ตัดสินใจเลือกที่จะปั่นจักรยาน หรือขับมอเตอร์ไซด์ไฟฟ้าแทนการเดินก็มีเช่นกัน ส่วนในช่วงตอนกลางคืนจะมีลมพัดค่อนข้างแรง

และแน่นอนว่าเมื่อมาเรียนในมหาวิทยาลัยแล้ว ตึกเรียนในแต่ละวันแต่ละคาบเรียนจะไม่มีความแน่นอน เพราะฉะนั้นนักศึกษาทุกคนจะต้องคอยเช็คดูว่าเราเรียนที่ตึกไหน ชั้นที่เท่าไหร่ ห้องอะไร ไม่อย่างงั้นคุณอาจจะไปเรียนผิดตึกได้

ห้องสมุดของที่นี่อยู่บริเวณหน้ามหาวิทยาลัย ขนาดค่อนข้างใหญ่ มีทั้งหมด 3 ชั้น ในแต่ละชั้นจะมีหมวดหนังสือให้เลือกอย่างหลากหลาย และที่นั่งสามารถเลือกได้ตามใจเลยว่าอยากนั่งบริเวณไหน บริเวณด้านนอกทางเข้าห้องสมุดยังมีตู้น้ำตู้ขนมขายอีกด้วย สำหรับใครที่กำลังหาสถานที่อ่านหนังสือเงียบ ๆ แนะนำห้องสมุดที่มหาวิทยาลัยซัวเถาเลยค่ะ

ถ้าพูดถึงประสบการณ์เรียนต่อจีน สถานที่ที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ โรงอาหารนั่นเอง เท่าที่ทราบตอนนี้ในมหาวิทยาลัยซ่านโถวมีโรงอาหารทั้งหมด 4 แห่ง ซึ่งบริเวณหอพักที่เราอาศัยอยู่จะติดกับโรงอาหาร 2 แห่ง ที่แรกอยู่บริเวณด้านล่างติดกับหอพักที่เราอาศัยอยู่ ส่วนอีกแห่งจะอยู่ฝั่งตรงข้าม เดินไปไม่ไกลก็ถึงแล้ว

อีก 2 ที่จะอยู่ค่อนข้างไกล โรงอาหารที่หนึ่งจะอยู่ใกล้กับสนามกีฬาและราคาจะค่อนข้างแพงกว่านิดหน่อย จะอยู่บริเวณชั้น2 ข้างล่างเป็นร้านสะดวกซื้อและร้านขายผลไม้ (ขอแอบกระซิบว่า ผลไม้ที่นี่ขายแพงมากTT) นาน ๆ ทีจะได้ไป หรือถ้ามีคาบเรียนแถว ๆ นั้นก็จะไปทานอาหารที่นั้น

ส่วนอีกที่หนึ่งจะเป็นโรงอาหารสำหรับคนอิสลามโดยเฉพาะ และแน่นอนว่าโรงอาหารจะมีกำหนดเวลาเปิด-ปิดอย่างชัดเจน เพราะฉะนั้นอย่าลืมดูเวลา ไม่เช่นนั้นคุณอาจจะไปถึงตอนที่มันปิดแล้วก็เป็นได้

ซึ่งหากคุณเบื่อที่จะทานในโรงอาหาร คุณก็สามารถเดินไปที่ประตูทางตะวันออก หรือตงเหมิน东门 ได้เช่นกัน ซึ่งจะอยู่บริเวณด้านนอกมหาวิทยาลัย มีร้านค้าขายอาหารและเครื่องดื่มขายมากมาย

บางคนกินเสร็จหนังตาก็หย่อนมา ก่อนถึงเวลาเรียนคาบบ่ายนักศึกษาบางคนจะกลับเข้าหอพักมานอนงีบ หรือเวลาเย็นที่ใครหลาย ๆ คนต่างก็อยากกลับห้องไปพักผ่อน ซึ่งหอพักที่เราได้อาศัยอยู่มีทั้งชาวจีนและชาวต่างชาติ มีทั้งหมด 11 ชั้น ซึ่งเราพักอาศัยอยู่ชั้นที่ 11 ในห้องมีรูมเมททั้งหมด 4 คน แต่ละคนจะมีพื้นที่เป็นของตัวเอง ด้านล่างจะเป็นโต๊ะเขียนหนังสือกับตู้เสื้อผ้า ส่วนด้านบนจะเป็นเตียงนอน ในห้องจะมีห้องอาบน้ำ ส่วนด้านนอกตรงระเบียงห้องจะมีห้องน้ำ อ่างล้างจาน

หากใครมีความต้องการอยากจะตากผ้าก็สามารถตากบริเวณนี้ได้เช่นกัน หอพักของเรายังมีดาดฟ้าอีกด้วย ลมพัดค่อนข้างแรง นักศึกษาที่อาศัยในหอพักนี้มักจะนำผ้ามาตากแดดตากลมในช่วงเวลากลางวัน

ด้านล่างหอพักยังมีร้านสะดวกซื้ออีกด้วย ถือว่าสะดวกสบายมาก ๆ มีทุกอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นอาหาร เครื่องดื่ม ของใช้จำเป็น เครื่องเขียนต่าง ๆ บางคนที่ลงมาทานอาหารไม่ทันมักจะเดินเข้ามาเพื่อหาอะไรทานรองท้อง หรือของใช้จำเป็นบางอย่างหมดก็สามารถลงมาซื้อที่นี่ได้เช่นกัน และสิ่งที่ทุกคนจะได้พบเจอในทุก ๆ วัน คือ น้องแมว บางคนมักจะนำอาหารมาให้น้อง ๆ เพราะน้องแมวเหล่านี้เป็นแมวจร หลายคนกลัวว่าน้องจะอดอยาก

พูดถึงประสบการณ์เรียนต่อจีนก็ต้องพูดถึงการสอนของอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยและเพื่อน ๆ เหล่าซือที่สอนในแต่ละวิชาน่ารักทุกคน หากเราไม่เข้าใจตรงไหนก็สามารถถามเหล่าซือเขาได้เลย เพราะเขาเข้าใจอยู่แล้วว่าภาษาจีนยาก และเราก็เป็นต่างชาติ หรือจะถามเหล่าซือหลังเลิกเรียนก็ได้ถ้าหากเขาไม่มีธุระไปที่อื่น

ต่อจากเรื่องของอาจารย์ ก็ต้องเป็นการหาเพื่อนใหม่ ชาวต่างชาติจะค่อนข้างเฟรนลี่ ใจดี เป็นกันเอง แต่กับคนจีนอาจจะยากนิดหน่อยเพราะตัวเราเองอาจจะกลัวสื่อสารกับเขาไม่รู้เรื่อง แต่อย่าได้แต่กังวล ถ้าไม่ลองคุยก็จะไม่มีวันรู้ ซึ่งนักศึกษาชาวจีนบางคนเขาก็สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ หรืออีกวิธีหนึ่งคือ เข้าชมรม การที่เรากับเขาสนใจอะไรที่คล้าย ๆ กัน จะทำให้สนิทกันเร็วมากขึ้น

ส่วนสุดท้ายนี้ ขอขอบคุณ Jinbu ที่คอยดูแลหนูมาตั้งแต่ก่อนสมัคร ให้ข้อมูลเรื่องมหาวิทยาลัยที่สนใจ คอยจัดการเอกสารรวมไปถึงการดำเนินการเรื่องต่าง ๆ แม้กระทั่งตอนที่บินมาถึงที่ประเทศจีนแล้ว ทาง Jinbu ก็ยังมาส่งถึงมหาวิทยาลัย และต้องขอบคุณการตัดสินใจของเราในครั้งนี้ที่ทำให้พบเจอแต่ประสบการณ์ใหม่ ๆ