East China Normal University
East China Normal University ( ECNU ) หรือที่รู้จักกันในชื่อ มหาวิทยาลัยครุศาสตร์หัวตง มีชื่อภาษาจีนว่า 华东师范大学 เรียกสั้นๆว่า “ 华师大 ” เป็นสถาบันการศึกษาที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยวิจัยระดับสูงของเซี่ยงไฮ้ภายใต้การดูแลของกระทรวงศึกษาธิการและรัฐบาลเทศบาลนครเซี่ยงไฮ้ นอกจากนี้ยังเป็นมหาลัยในจีนที่รวมอยู่ในโครงการการศึกษาแห่งชาติของจีน ( โครงการ 211 และ โครงการ 985 ) และยังถูกกำหนดโดยทางการของจีนให้เป็นหนึ่งใน 16 มหาลัยในจีนที่สำคัญของประเทศ
East China Normal University ก่อตั้งขึ้นในปี พ. ศ. 2494 จากการรวมตัวของมหาวิทยาลัยต้าเซียที่ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2467 และมหาวิทยาลัยกวางหัวซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2468 และในเวลาเดียวกันยังได้รับการเข้าร่วมจากหน่วยงานของมหาวิทยาลัยในจีนอีกหลายแห่ง เช่น มหาวิทยาลัยฟู่ตัน มหาวิทยาลัยถงจี้ และมหาวิทยาลัยเจ้อเจียง
ปัจจุบันมีคณาจารย์ 4,414 เป็นอาจารย์ประจำ 2,387 คน และอาจารย์อาวุโส 2,089 คน รวมถึงนักวิชาการ 19 คนของ Chinese Academy of Sciences และ Chinese Academy of Engineering มีนักศึกษาระดับปริญญาตรี 15,538 คน นักศึกษาปริญญาเอก 3,633 คน นักศึกษาปริญญาโท 16,117 คน และนักศึกษาต่างชาติ 1,427 คน
วิทยาลัยครุศาสตร์อันดับต้นๆของจีน ที่คนอยากเรียนต่อจีนต้องอ่าน !
ในปี พ. ศ. 2502 East China Normal University ได้รับการประกาศอย่างเป็นทางการว่าเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยแห่งชาติ 16 แห่งแรกที่เป็นผู้นำด้านการศึกษาระดับอุดมศึกษาของจีน และได้รับการยืนยันสถานภาพอีกครั้งในปี พ.ศ. 2521 โดยเป็นมหาวิทยาลัยแห่งชาติแห่งแรกของสาธารณรัฐประชาชนจีนที่ส่งเสริมการฝึกอบรมครู
เริ่มแรกในปี พ.ศ. 2515 เป็นที่รู้จักในนามมหาวิทยาลัยครูเซี่ยงไฮ้ โดยรวมเข้ากับวิทยาลัยครูเซี่ยงไฮ้และวิทยาลัยกีฬาเซี่ยงไฮ้ ต่อมาในปี พ.ศ. 2523 ด้วยการอนุมัติของกระทรวงศึกษาธิการ ได้มีการปรับเปลี่ยนชื่อของมหาวิทยาลัยจาก ” มหาวิทยาลัยครูเซี่ยงไฮ้ ” เป็น ” มหาวิทยาลัยครุศาสตร์หัวตง “
อยากเรียนต่อจีนอ่าน! ที่ตั้งและวิทยาเขตของมหาวิทยาลัยครุศาสตร์หัวตง
East China Normal University ตั้งอยู่ในเมืองเซี่ยงไฮ้ ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด 1,293.75 ไร่ โดยประกอบไปด้วย 2 วิทยาเขต ได้แก่ วิทยาเขตจงซานเป่ย （ 中山北 ）กับ วิทยาเขตหมิ่นหาง （ 闵行 ）
วิทยาเขตจงซานเป่ย （ 中山北 ）
วิทยาเขตหมิ่นหาง （ 闵行 ）
สำหรับใครที่สนใจอยากเรียนต่อจีน เรามาดูภาพรวมของหอพักของมหาวิทยาลัยนี้กันก่อน
วิทยาเขตจงซานเป่ย （ 中山北 ）
วิทยาเขตจงชานเป่ย จะอยู่ติดกับแม่น้ำซูโจว หอพักในวิทยาเขตส่วนใหญ่ประกอบด้วยอพาร์ตเมนต์และหอพักทั่วไป ยกเว้น หอพักชั่วคราวสำหรับผู้ฝึกประสบการณ์วิชาชีพ ส่วนใหญ่เป็นห้องสำหรับ 4 ท่าน อพาร์ตเมนต์จะมีห้องน้ำส่วนตัวแต่ไม่มีฝักบัวน้ำอุ่น ส่วนหอพักทั่วไป จะมีพื้นที่ซักล้างสาธารณะ ไม่มีฝักบัวน้ำอุ่น ห้องพักรวมแต่ละที่จะมีห้องน้ำสาธารณะซึ่งเปิดให้บริการตามเวลาที่กำหนด แต่ละหอพักสามารถติดตั้งเครื่องปรับอากาศได้ หอพักนอกวิทยาเขตส่วนใหญ่จะประกอบด้วยหอพักนักศึกษา ซึ่งทุกห้องมีห้องน้ำส่วนตัวและฝักบัวน้ำอุ่น
สิ่งอำนวยความสะดวกในวิทยาเขตจงชานเป่ย ได้แก่
- สนามแบดมินตัน 2 แห่ง
- สนามเทเบิลเทนนิส 1 แห่ง
- สระว่ายน้ำ 1 แห่ง
- สนามบาสเก็ตบอลในร่ม 2 แห่ง
- สนามบาสเก็ตบอลกลางแจ้ง 1 แห่ง
- สนามฟุตบอลกลางแจ้ง 1 แห่ง
- โรงอาหารอีก 3 แห่งในวิทยาเขต
- ร้านอาหารตะวันตก 2 แห่ง
- ร้านอาหารอิสลาม 1 แห่ง
- ร้านอาหารสไตล์ฮ่องกง 1 แห่ง
- พื้นที่อ่านหนังสือตลอด 24 ชั่วโมง 1
- คาเฟ่
วิทยาเขตหมิ่นหาง （ 闵行 ）
ส่วนหอพักของวิทยาเขตหมิ่นหาง จะตั้งอยู่ในเมืองหวู่จิงเขตหมิ่นหาง ติดกับวิทยาเขตหมิ่นหางของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เจียวทงอพาร์ตเมนต์ในวิทยาเขตส่วนใหญ่เป็นอพาร์ตเมนต์สำหรับนักศึกษาระดับปริญญาตรีซึ่งส่วนใหญ่เป็นห้องพักสำหรับ 4 ท่าน แต่ละชั้นมีพื้นที่ซักล้าง 2 จุด มีห้องน้ำสาธารณะที่ชั้น 1 พร้อมฝักบัวน้ำอุ่นซึ่งเปิดปิดตามเวลาที่กำหนด แต่ละหอพักสามารถติดตั้งเครื่องปรับอากาศได้ และนักศึกษาจะต้องชำระค่าเช่าเพื่อติดตั้ง ส่วนอพาร์ตเมนต์นอกวิทยาเขตเป็นอพาร์ตเมนต์ที่มีระดับสูงกว่าปริญญาตรี ซึ่งจะมีทั้งห้องน้ำส่วนตัวและฝักบัวน้ำอุ่น
โดยทุกหอพักมีการติดตั้งระบบควบคุมการเข้าออกที่ทางเข้าออกหอพักของแต่ละหอพัก นักเรียนที่พักอาศัยอยู่ต้องรูดบัตรของมหาวิทยาลัยจึงจะผ่านได้ ผู้มาเยี่ยมต้องลงทะเบียนและเอกสารเพื่อเข้าชม โดยมีเวลาจำกัดอย่างเคร่งครัด
สิ่งอำนวยความสะดวกในวิทยาเขตหมิ่นหาง ได้แก่
- สนามแบดมินตันในร่ม 1 แห่ง
- สนามเทเบิลเทนนิส 1 แห่ง
- สระว่ายน้ำ 1 แห่ง
- ฟิตเนส 1 แห่ง
- สนามบาสเก็ตบอลกลางแจ้ง 1 แห่ง
- สนามฟุตบอล 1 แห่ง
- โรงอาหารอีก 2 แห่ง
- และร้านอาหารอีกมากมาย
คณะและสาขาวิชาต่างๆที่หลากหลายที่คนอยากเรียนต่อจีนต้องไม่พลาด
ในช่วงเริ่มต้นของการก่อตั้งมหาวิทยาลัยครุศาสตร์หัวตงได้จัดตั้งแผนก 11 แผนก ได้แก่ ศึกษาศาสตร์ ภาษาจีน ภาษาต่างประเทศ ประวัติศาสตร์ คณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา ภูมิศาสตร์ ดนตรี และพลศึกษา โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อปลูกฝัง “ครูของผู้คนนับล้าน ” ต่อมาในปี พ.ศ. 2496 กระทรวงศึกษาธิการได้เปิดชั้นเรียนระดับบัณฑิตศึกษาวิชาชีพ โดยในปี พ.ศ. 2508 มีการคัดเลือก นักศึกษาต่างชาติมากกว่า 210 คนจากเวียดนาม และเริ่มการศึกษาของนักศึกษาต่างชาติ
หลังจากการปรับแผนกและการพัฒนาสาขาวิชามหาวิทยาลัยครุศาสตร์หัวตงได้ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นมหาวิทยาลัยที่ครอบคลุมและมุ่งเน้นการวิจัยตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1980
11 วิทยาลัย
- วิทยาลัยธรณีศาสตร์
- วิทยาลัยศึกษาศาสตร์
- วิทยาลัยเศรษฐศาสตร์และการจัดการ
- วิทยาลัยสารสนเทศ
- วิทยาลัยเหมิงเซียนเฉิง
- วิทยาลัยเศรษฐศาสตร์และการจัดการ
- วิทยาลัยต้าเซีย
- วิทยาลัยกวงหัว
- วิทยาลัยการศึกษา
- วิทยาลัยพัฒนาครูเซี่ยงไฮ้
- วิทยาลัยนวัตกรรมและการเป็นผู้ประกอบการ
8 สถาบันวิจัย
- สถาบันเพื่อการศึกษาขั้นสูงด้านมนุษยศาสตร์ซือเหมี่ยน
- สถาบันเพื่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและการพัฒนาภูมิภาค
- สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์ชายฝั่งเหอโข่ว
- สถาบันวิจัยการพัฒนาเมือง
- สถาบันวิจัยนโยบายมหภาคแห่งชาติ
- สถาบันวิจัยนวัตกรรม
และยังมีอีก 29 คณะ
- คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ( ภาควิชาภาษาและวรรณคดีจีน ภาควิชาประวัติศาสตร์ ภาควิชาปรัชญา และภาควิชารัฐศาสตร์ )
- คณะวิชาลัทธิมาร์กซ์
- คณะนิติศาสตร์
- คณะพัฒนาสังคม
- คณะภาษาต่างประเทศ
- คณะวัฒนธรรมจีนนานาชาติ
- คณะจิตวิทยาและวิทยาศาสตร์ความรู้ความเข้าใจ
- คณะพลศึกษาและสุขภาพ
- คณะนิเทศศาสตร์
- คณะดนตรีคณะวิจิตรศิลป์
- คณะออกแบบ
- คณะคณิตศาสตร์
- คณะฟิสิกส์และวัสดุศาสตร์
- คณะวิชาเคมีและวิศวกรรมโมเลกุล
- คณะวิชาวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิต
- คณะวิชาวิทยาการสารสนเทศและเทคโนโลยี
- คณะวิทยาการคอมพิวเตอร์และวิศวกรรมซอฟต์แวร์
- คณะวิทยาศาสตร์ข้อมูลและวิศวกรรมศาสตร์
- คณะวิชาวิทยาศาสตร์ภูมิศาสตร์
- คณะวิชาวิทยาศาสตร์เมืองและภูมิภาค
- คณะวิชานิเวศวิทยาและวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม
- คณะวิทยาศาสตร์ทางทะเล
- คณะศึกษาศาสตร์
- คณะเศรษฐศาสตร์
- คณะบริหารธุรกิจ
- คณะการจัดการของรัฐ
- คณะสถิติ
- คณะธุรกิจเอเชีย-ยุโรป
- นอกจากนี้ยังมีศูนย์ฝึกอบรมครูระดับมัธยมศึกษาตอนต้นของกระทรวงศึกษาธิการ
โรงพยาบาลในเครือ
ในเดือนพฤษภาคม ปี พ.ศ. 2562 มหาวิทยาลัยครุศาสตร์หัวตงได้ลงนามในสัญญากับรัฐบาลเขตฉางหนิง เพื่อร่วมกันสร้างโรงพยาบาลสุขภาพแม่และเด็กในเครือมหาวิทยาลัยครุศาสตร์หัวตง ( เดิมชื่อโรงพยาบาลสุขภาพแม่และเด็กฉางหนิงเซี่ยงไฮ้ ) และสถาบันจิตเวชมหาวิทยาลัยหัวตง ( เดิมชื่อ ศูนย์สุขภาพจิตเขตฉางหนิงเซี่ยงไฮ้ )
ในเดือนพฤษภาคม ปี พ.ศ. 2563 โรงพยาบาลหวู่หูในเครือของมหาวิทยาลัยครุศาสตร์หัวตงได้ก่อตั้งขึ้นในโรงพยาบาลแห่งที่สองของเมืองหวู่หูมณฑลอานฮุย กลายเป็นโรงพยาบาลอุดมศึกษาแห่งแรกของมหาวิทยาลัยครุศาสตร์หัวตง
การจัดอันดับมหาลัยในจีน สายเรียนต่อจีนต้องดู
สำหรับใครที่อยากไปเรียนที่จีนทาง Jinbu scholarshipได้นำการจัดอันดับของมหาลัยครุศาสตร์หัวมาให้ทุกคนดูคร่าวๆ ในปี 2565 การจัดอันดับล่าสุดของมหาวิทยาลัยครุศาสตร์หัวตง ได้อยู่ในอันดับที่ 23 ของมหาวิทยาลัยในจีน ( อ้างอิงจากข้อมูลการจัดอันดับที่ทั้งหมดในปี 2564 ) โดยข้อมูลการจัดอันดับมาจากการจัดอันดับมหาวิทยาลัยระดับประเทศที่เผยแพร่โดยองค์กรภายนอก เช่น ” Alumni Association Edition “, ” USNews ” เป็นต้น
อันดับระดับประเทศของมหาวิทยาลัยครุศาสตร์หัวตงในช่วงปีที่ผ่านมา ตามข้อมูลที่เผยแพร่โดย iResearch China Alumni Association University Rankings มหาวิทยาลัยครุศาสตร์หัวตงจะอยู่ในอันดับที่ 23 ทั่วประเทศในปี พ.ศ. 2564
- ปี พ. ศ .2563 อยู่ในอันดับที่ 32
- ปี พ. ศ .2562 อยู่ในอันดับที่ 28
- ปี พ. ศ .2561 อยู่ในอันดับที่ 28
จากการจัดอันดับมหาวิทยาลัยของ USNews China มหาวิทยาลัยครุศาสตร์หัวตงจะอยู่ในอันดับที่ 30 จากมหาวิทยาลัยทั่วประเทศในปี 2564
- ปี พ. ศ . 2563 อยู่ในอันดับที่ 27
- ปี พ. ศ . 2562 อยู่ในอันดับที่ 31
- ปี พ. ศ . 2561 อยู่ในอันดับที่ 29
ใครอยากไปเรียนที่จีนไม่ควรพลาด ทั้งนี้มี 6 แขนงที่ประเทศจีนรองรับให้เป็นศูนย์วิจัยและพัฒนา คือ ด้านภาษาจีน ประวัติศาสตร์คณิตศาสตร์ ภูมิศาสตร์ จิตวิทยา และฟิสิกส์ ถ้าใครอยากมาเรียนด้านที่ว่านี้ถือว่ามาที่นี่แล้วจะไม่ผิดหวัง
หลังจากการปรับแผนกและการพัฒนาสาขาวิชามหาวิทยาลัยครุศาสตร์หัวตงได้ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นมหาวิทยาลัยที่ครอบคลุมและมุ่งเน้นการวิจัยตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1980
ต่อต่อทีมงานจิ้นปู้
แอด LINE Official
ไม่พลาดทุกโอกาส
ชั้น 3 จามจุรีสแควร์ ถนนพระราม 4 กรุงเทพฯ (MRT สถานีสามย่าน)
ต่อต่อทีมงานจิ้นปู้
095-481-8901 : พี่ไทร
082-953-9901 : พี่แก้ว
095-528-5404 : พี่โอ
091-736-5225 : พี่ออย
แอด LINE Official
ไม่พลาดทุกโอกาส
ชั้น 3 จามจุรีสแควร์ ถนนพระราม 4 กรุงเทพฯ (MRT สถานีสามย่าน)
