
แชร์ประสบการณ์เรียนต่อจีนกับ Jinbu
By น้องใบบัว นักศึกษาทุนจีนของ Beijing Information Science and Technology University

“ หลังจากไปจีน รู้สึกได้เลยว่าตัวเองกล้าพูดภาษาจีนขึ้นเยอะมาก ต่อให้ไม่มั่นใจว่าสิ่งที่พูดถูกต้องหรือไม่ แต่ก็กล้าที่จะพูด ”
สวัสดีค่ะ นางสาวณัฐธยาน์ มีสิงห์ชัย ชื่อเล่นใบบัวค่ะ ได้มีโอกาสไป ค่ายภาษาและวัฒนธรรมกับทาง Jinbu ที่ Beijing Information Science and Technology University หรือ มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสารสนเทศปักกิ่ง (北京信息科技大学) เป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์
Jinbu Study in China
ชั้น 3 จามจุรีสแควร์ ถ.พระราม 4 กทม.
MRT สามย่าน ทางออก 2
(จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย)
การไปเข้าค่ายครั้งนี้ถึงจะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ แต่ก็มีเรื่องที่ทำให้รู้สึกประทับใจเกิดขึ้นมากมาย ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้าย เพราะส่วนตัวชอบประเทศจีนอยู่แล้ว ความประทับใจแรกก็คือ สถานที่และสภาพแวดล้อม
ในปักกิ่ง ตอนที่ไปตอนนั้นอากาศเย็นสบายมาก บางเวลามีลมแรงหน่อยแต่รวม ๆ ถือว่าดีเลย สถาปัตยกรรมของที่นี่ก็มีเอกลักษณ์สวยงาม
พอสนิทกับเพื่อน ๆ พี่ ๆ ในค่าย ก็ได้ทำกิจกรรมด้วยกันมากมาย ทั้งเล่น Werewolf, ชงชา, แต่งหน้า, ตีแบด, เดินเล่น, ถ่ายรูป, นั่งจับกลุ่มพูดคุยกัน และอีกหลายอย่าง แต่ถ้าพูดถึง ประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการเข้าค่ายภาษาจีน คงเป็นการเล่นจานร่อนกับรุ่นพี่มหาลัยที่เป็นคนจีน เป็นเรื่องราวดี ๆ ที่เกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัว

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตอนเย็นหลังเลิกเรียน วันนั้นนัดกับเพื่อนไปเดินเล่นในสนามฟุตบอล แล้วอยู่ ๆ ก็มีกลุ่มคนจีนเข้ามาทักถามว่า “ว่างไหม” พอตอบว่าว่าง เขาก็รีบพาไปเล่นจานร่อนด้วยทันที ถือว่าเป็นกิจกรรมที่เหนื่อยแต่สนุกมาก และทำให้รู้สึกมีความสุขไปพร้อม ๆ กับได้ ฝึกใช้ภาษาจีนจริงในชีวิตประจำวัน พี่ ๆ ที่นั่นน่ารักและเป็นกันเองมาก
ถ้าพูดถึง ข้อดีของการไปเข้าค่ายเรียนภาษาที่จีน อย่างแรกเลยคือได้ ฝึกภาษาจีนอย่างเต็มที่ ต่อให้เราจะกลัวหรือไม่กล้า แต่เราก็หลีกเลี่ยงที่จะไม่ใช้มันไม่ได้จริง ๆ มันเหมือนการฝึกความกล้า หลังจากไปจีน รู้สึกได้เลยว่าตัวเองกล้าพูดภาษาจีนขึ้นเยอะมาก ต่อให้ไม่มั่นใจว่าสิ่งที่พูดถูกต้องหรือไม่ แต่ก็กล้าที่จะพูด เพราะคนจีนน่ารักมาก ถ้าเราพูดผิด เขาก็ตั้งใจฟังและช่วยแก้ให้ถูกต้อง

อีกข้อดีสำคัญคือ ได้ทดลองใช้ชีวิตจริงในประเทศจีน ทำให้ค้นหาคำตอบให้ตัวเองได้ว่า เราชอบประเทศนี้จริงไหม และถ้าได้ไปเรียนจริง ๆ จะใช้ชีวิตอยู่ได้หรือเปล่า

สิ่งที่อยากบอกเพิ่มเติมคือ Jinbu ดูแลดีมาก พี่ ๆ ทีมงานน่ารักและเอาใจใส่ตั้งแต่สมัครค่ายจนถึงวินาทีสุดท้ายก่อนกลับบ้าน มีวันหนึ่งฝนตกและอากาศเย็นจนฉันไม่สบาย พี่ที่ดูแลก็รีบขึ้นมาถามอาการว่ามียาไหม แล้วรายงานให้ผู้ปกครองรับทราบแบบเรียลไทม์ คุณแม่เลยหมดห่วง หรือแม้แต่ในวันที่ปวดท้อง พี่ที่ดูแลก็ทั้งทักมาถาม ทั้งขึ้นมาดูอาการถึงห้อง

พี่ ๆ ดูแลดีมาก เปรียบเสมือนมีญาติไปเข้าค่ายด้วย พอเป็นแบบนี้ก็ยิ่งทำให้การใช้ชีวิตในประเทศจีนมีความสุขมากยิ่งขึ้น ส่วนหนึ่งก็เพราะพี่ ๆ เลย พี่ที่ดูแลคอยหากิจกรรมมาให้ทำตลอด จากการเล่นเกมนี่แหละที่ทำให้ได้มีโอกาสคุยกับเพื่อนในค่ายบางคนที่ไม่รู้จะเข้าหายังไง มีความสุขมากที่ได้เจอ Jinbu