ประสบการณ์การเรียนภาษาที่จีน และความประทับใจการใช้บริการกับ Jinbu
By น้องซือ นักศึกษาทุน Hunan Agricultural University
“ ขอขอบคุณ Jinbu ที่คอยดูแล ให้คำปรึกษามาโดยตลอด ทางทีมงานให้ข้อมูลอย่างดี และคอยติดตามอยู่ตลอด
รู้สึกว่าตัดสินใจไม่ผิดจริง ๆ ที่เลือกให้ทีม Jinbu ดูแล ”
สวัสดีค่ะ ฉันชื่อซือนะคะ ตอนนี้กำลังเรียนภาษาที่จีนอยู่ที่ Hunan Agricultural University วันนี้จะมาแชร์ประสบการณ์การไปเรียนภาษาที่ประเทศจีน และความประทับใจการใช้บริการกับ Jinbu ค่ะ
ประสบการณ์การเรียนภาษาที่จีน และความประทับใจการใช้บริการกับ Jinbu
โดยต้องเล่าก่อนว่ามหาวิทยาลัยนี้อยู่ในมณฑณชางฉา เมืองหูหนานซึ่งเมืองหูหนานตั้งอยู่ทางตอนกลางของภาคใต้ของสาธารณรัฐประชาชนจีน
อยู่ในเขตกึ่งร้อนชื้นตอนกลาง จึงมีภูมิอากาศแบบมรสุม เป็นผลให้ได้รับแสงแดดและฝนตกมาก ซึ่งช่วงเวลาที่อยู่ที่นี่แรก ๆ คือช่วงหน้าร้อน แต่ช่วงเดือนตุลาคม-กลางพฤศจิกายน อากาศเปลี่ยนแปลงตลอด ทำให้ต้องเตรียมพร้อมทั้งร่ม เสื้อกันหนาวและดูสภาพอากาศทุกวันก่อนไปเรียน ซึ่งการเดินทางของนักเรียนที่นี่บางคนก็ปั่นจักรยาน บางคนก็เดินไป
สภาพแวดล้อมในมหาวิทยาลัย มีต้นไม้อยู่ทั่วทุกบริเวณ ทำให้บรรยากาศร่มรื่นมาก มีบ่อน้ำ บึงน้ำอยู่หลายจุด ทำให้มักมีคนมานั่งปิกนิคเดินเล่นกันมากมาย ซึ่งมหาวิทยาลัยนี้ถือเป็นมหาวิทยาลัยที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของชางฉา
ซึ่งอย่างล่าสุดเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิ อากาศเย็นสบายและมีใบไม้เปลี่ยนสีหลายจุดในมหาวิทยาลัย เป็นช่วงหนึ่งที่ภายในมหาวิทยาลัยครึกคักมาก เพราะ มีผู้คนต่างเข้ามาเพื่อมาถ่ายรูปต้นไม้เปลี่ยนสี ชมความสวยงามอย่างไม่ขาดสาย
หอพัก
เป็นหอพักนักเรียนต่างชาติ โดยฉันพักอยู่ชั้น2 ห้องขนาดพอเหมาะมีห้องน้ำส่วนตัว สะดวกสบาย ภายในห้องมีเตียง 2 ชั้น 2 เตียง โต๊ะ,เก้าอี้ 2 ชุด กระจกบานใหญ่ แอร์ 1 เครื่อง ที่สามารถเปิดฮีตเตอร์ได้
ส่วนภายในห้องน้ำก็มีขนาดกำลังดี โดยมีเครื่องทำน้ำอุ่นสำหรับก๊อกน้ำและฝักบัว และชักโครกเป็นแบบนั่งโถส้วมคนที่ไม่ชินกับส้วมหลุมสบายใจได้ และภายในหอยังมีเครื่องซักผ้าให้ใช้ฟรี และตู้เย็นส่วนกลางให้ทุกคนได้ใช้งาน
โรงอาหารในมหาวิทยาลัย
ในส่วนของโรงอาหารในมหาวิทยาลัยมีอยู่หลายจุด มีเมนูหลากหลาย ราคาถูกกว่าข้างนอก ซึ่งนอกจากอาหารจีนแล้ว ยังมีร้านอาหารมุสลิม (清真) สำหรับคนที่เป็นมุสลิมซึ่งก็มีเมนูให้เลือกเยอะเหมือนกัน
แต่ถึงแม้โรงอาหารจะมีหลายจุด แต่ก็ต้องรีบไปให้เร็ว เพราะนักเรียนทุกคนพักเที่ยงพร้อมกันทำให้โรงอาหารจะมีนักเรียนเข้ามาเยอะมาก พนักงานที่ตักอาหารให้ก็น่ารัก ใจดีทุกคน ยิ่งถ้ารู้ว่าเราเป็นชาวต่างชาติก็จะชวนคุยนู้นนี่ ตักให้เยอะมาก ช่วงแรก ๆ ที่มาที่นี่ รู้สึกว่าปริมาณเยอะมาก แต่หลังจากนั้นไม่นานพอปรับตัวได้ก็กินได้จนหมด
นอกจากโรงอาหารแล้วภายในและนอกมหาวิทยาลัยยังมีร้านสะดวกซื้อ ซึ่งราคาถือว่าเป็นมิตรและมีให้เลือกซื้อครบถ้วน แต่ที่ชอบที่สุด คือ ตลาดของกินที่อยู่ใกล้ ๆ มหาวิทยาลัย มีให้เลือกกินมากมาย เป็นที่ที่เด็กในมอมักไปหาอะไรกินกัน ซึ่งเมนูที่เราชื่นชอบที่สุด คือ หลัวซือเฟิ่น (螺蛳粉) ดังนั้นก็ไม่ต้องเป็นห่วงว่าจะหากินยาก เพราะทั้งบริเวณมหาวิทยาลัยมีอำนวยความสะดวกให้แล้ว
และหากเบื่อก็มีห้างที่ชื่อว่า “天街” ให้ได้ไปเดินเล่นกันได้
พูดถึงการอำนวยความสะดวกที่ขาดไม่ได้ที่ต้องพูดถึงคือ การเดินทาง ซึ่งที่นี่นอกจากจะปั่นจักรยานไปบริเวณใกล้ ๆ แล้ว ยังมีรถเมล์โดยสารอยู่หน้ามหาวิทยาลัยและเดินขึ้นไปอีกหน่อยก็สามารถนั่งรถไฟใต้ดินเพื่อเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย
ในส่วนของการกดเงิน ถึงแม้ภายในมหาลัยจะไม่มีตู้กดเงิน แต่เราสามารถออกมากดเงินได้ซึ่งดูกดเงินอยู่ไม่ไกลจากห้าง天街 ส่วนตัวเราชอบปั่นจักรยานออกมาชิว ๆ กดเงินเสร็จก็สามารถไปห้างเดินเล่นต่อได้เลย
ห้องสมุด
ห้องสมุดใหญ่และกว้างขวาง มีทั้งหมด 6 ชั้นซึ่งมีหนังสือให้เลือกอ่านมากมาย จัดระเบียบเป็นหมวดหมู่ เงียบสงบ เหมาะแก่การอ่านนั่งอ่านหนังสือ ซึ่งคนที่จะเข้ามานั่งจะมีระบบการจองที่เพื่อเป็นระเบียบสำหรับคนที่ต้องการเข้ามาอ่านหนังสือจริง ๆ คนที่อยากเข้ามาอ่านหนังสือเงียบ ๆ ไม่ต้องการให้มีเสียงรบกวนก็แนะนำเลยค่ะ
การเรียน และเพื่อน ๆ ในคลาส
ช่วงแรกที่มาเรียนที่จีนได้มีการเรียนปรับพื้นฐานสำหรับนักเรียนต่างชาติทุกคนในช่วงแรก เพื่อดู skill ของแต่ละคน หลังจากนั้นได้มีการแยกคลาสเพื่อให้ตรงกับทักษะของเรา
โดยเพื่อในคลาสก็มาจากหลากหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็น รัสเซีย คาซัคสถาน ยูเครน แอฟริกัน ปากีสถาน ซึ่งนอกจากมาเรียนภาษาที่จีนแล้วยังเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้ทำความรู้จักและแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับเพื่อนชาติอื่น ๆ ในคลาส ที่ถึงแม้จะสื่อสารกันไม่ค่อยได้ แต่ทุกคนมาเพื่อเรียนรู้ภาษาและวัฒนธรรม เรื่องภาษาที่ต่างเลยไม่ใช่ปัญหา และทุกคน nice มาก ทำให้เราสนิทกันได้ไม่ยาก
อาจารย์ผู้สอน
ช่วงแรกที่เรียนอาจารย์จะค่อย ๆ สอนเราโดยอธิบายเป็นภาษาอังกฤษซะส่วนใหญ่ หลังจากเรียนไปสักพักก็จะเริ่มปรับลดการพูดภาษาอังกฤษลงเรื่อย ๆ รู้ตัวอีกทีเราก็ซึมซับและฟังภาษาจีนออกไปเอง ซึ่งหากเราไม่เข้าใจอาจารย์จะพูดเสมอเลยว่าให้เรายกมือถามได้ทันทีดีกว่าไปผ่านไป
โดยถึงอาจารย์แต่ละท่านมีรูปแบบการสอนที่ต่างกันแต่เรารู้สึกได้เลยว่าทุกท่านตั้งใจสอนและต้องการพยายามให้เราใช้และพูดได้จริง ๆ ไม่ใช่แค่มาเรียนแค่เพื่อเอาไปสอบให้ผ่านไปเท่านั้น อาจารย์จะชอบให้เรามีบทสนทนาให้คลาส ได้ลองพูดลองเอาสิ่งที่เรียนมาลองใช้จริง และนอกจากการสอนวิชาในบทเรียนอาจารย์ก็มักจะสอดแทรกความรู้และวัฒนธรรมต่าง ๆ ของประเทศจีนให้เราซึ่งทำให้การเรียนสนุกมากขึ้นไปอีก
นอกจากการเรียนในคลาสแล้วทางมหาวิทยาลัยยังจัดกิจกรรมเพื่อให้เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมอื่นๆของประเทศจีนอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมตามเทศกาลอย่าง เทศกาลวันไหว้พระจันทร์ และพาไปดูพิพิธภัณฑ์ศิลปะวัฒนธรรมทั้งในและนอกมหาลัย ให้เราเข้าใจประเทศจีนในแง่มุมอื่น ๆ
ส่วนสุดท้าย ต้องขอขอบคุณ Jinbu ที่คอยดูแล ให้คำปรึกษามาโดยตลอด ทั้งเรื่องข้อมูลมหาวิทยาลัยและเรื่องของรายละเอียดต่าง ๆ ซึ่งเราถามไปเยอะมากแต่ทางพี่ผู้ดูแลก็ให้ข้อมูลอย่างดี คอยติดตามตลอด คอยจัดการดำเนินการขั้นตอนต่าง ๆ ให้เป็นไปอย่างราบรื่น แม้กระทั่งตอนจะบินก็มีทีมงาน Jinbu มาส่งและมารับที่สนามบิน เพื่อพาไปมหาวิทยาลัย รู้สึกว่าตัดสินใจไม่ผิดจริง ๆ ที่เลือกให้ทีม Jinbu ดูแล
ต่อต่อทีมงานจิ้นปู้
แอด LINE Official
ไม่พลาดทุกโอกาส
ชั้น 3 จามจุรีสแควร์ ถนนพระราม 4 กรุงเทพฯ (MRT สถานีสามย่าน)
ต่อต่อทีมงานจิ้นปู้
095-481-8901 : พี่ไทร
082-953-9901 : พี่แก้ว
095-528-5404 : พี่โอ
091-736-5225 : พี่ออย
แอด LINE Official
ไม่พลาดทุกโอกาส
ชั้น 3 จามจุรีสแควร์ ถนนพระราม 4 กรุงเทพฯ (MRT สถานีสามย่าน)