ค่าใช้จ่ายรายเดือนของนักศึกษามหาวิทยาลัยในจีน
คู่มือที่เป็นประโยชน์สำหรับนักศึกษาไทย
การใช้ชีวิตร่วมกับนักศึกษาจีนเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ที่สำคัญในการศึกษาต่อในต่างประเทศ การทำความเข้าใจพฤติกรรมการใช้จ่ายของนักศึกษาจีนจะช่วยให้นักศึกษาไทยสามารถวางแผนงบประมาณได้อย่างเหมาะสมและปรับตัวเข้ากับชีวิตในมหาวิทยาลัยจีนได้ง่ายขึ้น บทความนี้จะวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้จ่ายของนักศึกษาจีนโดยอ้างอิงข้อมูลล่าสุด พร้อมแบ่งระดับค่าใช้จ่ายออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ ระดับพื้นฐาน ระดับปานกลาง และระดับสูง เพื่อให้นักศึกษาไทยสามารถนำไปใช้ในการวางแผนการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Jinbu Study in China
ชั้น 3 จามจุรีสแควร์ ถ.พระราม 4 กทม.
MRT สามย่าน ทางออก 2
(จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย)
1. ระดับค่าใช้จ่ายรายเดือนของนักศึกษาจีน
จากรายงานการวิจัยล่าสุด นักศึกษามหาวิทยาลัยในจีนมีค่าใช้จ่ายรายเดือนที่แบ่งออกเป็น 3 ระดับดังนี้
ระดับพื้นฐาน (ค่าใช้จ่ายรายเดือนต่ำกว่า 1,000 หยวน)
นักศึกษากลุ่มนี้เน้นใช้จ่ายในเรื่องที่จำเป็น เช่น ค่าอาหารและของใช้ประจำวัน โดยมักใช้บริการโรงอาหารในมหาวิทยาลัยหรือซื้อของจากร้านสะดวกซื้อในราคาประหยัด
ระดับปานกลาง (ค่าใช้จ่ายรายเดือนระหว่าง 1,000-2,000 หยวน)
นักศึกษากลุ่มนี้เป็นกลุ่มส่วนใหญ่ โดยนอกจากค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายในด้านการเรียน (เช่น การซื้อหนังสือหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์) รวมถึงกิจกรรมสันทนาการ เช่น การดูหนังหรือเข้าร่วมกิจกรรมชมรมในมหาวิทยาลัย
ระดับสูง (ค่าใช้จ่ายรายเดือนมากกว่า 2,000 หยวน)
นักศึกษากลุ่มนี้มักมีฐานะทางการเงินดี หรือมีรายได้จากงานพาร์ทไทม์ การใช้จ่ายของพวกเขามักครอบคลุมสินค้าแบรนด์เนม อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ การท่องเที่ยว และกิจกรรมบันเทิงที่มีค่าใช้จ่ายสูง
2. พฤติกรรมการใช้จ่ายของนักศึกษาจีน
1. โครงสร้างการใช้จ่ายที่หลากหลาย
ค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ของนักศึกษาจีนมุ่งไปที่ค่าอาหารและของใช้ในชีวิตประจำวัน (41.2%) นอกจากนี้ยังมีการใช้จ่ายในหมวดหมู่ที่หลากหลาย เช่น อุปกรณ์การเรียน เสื้อผ้า เครื่องสำอาง และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ แสดงให้เห็นว่านักศึกษามีการบริโภคที่เน้นคุณภาพชีวิตมากขึ้น
2. ช่องทางการช้อปปิ้งที่หลากหลาย
แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ เช่น Taobao, Tmall, Pinduoduo และ JD.com เป็นช่องทางหลักที่นักศึกษาจีนใช้ซื้อสินค้า เนื่องจากมีตัวเลือกหลากหลายและโปรโมชั่นที่ดึงดูดใจ เช่น งาน “Double 11 Shopping Festival” ซึ่งเป็นที่นิยมในกลุ่มนักศึกษา
3. การใช้จ่ายล่วงหน้าที่เพิ่มขึ้น
นักศึกษาจีนมากกว่า 70% มีการใช้บริการสินเชื่อระยะสั้น เช่น Alipay’s Huabei (คล้ายบัตรเครดิต) เพื่อบริหารการใช้จ่ายในช่วงที่ต้องการสินค้าและบริการที่มีราคาสูง แนวโน้มนี้สะท้อนถึงความนิยมในวัฒนธรรมการบริโภคแบบทันสมัย
4. อิทธิพลของโซเชียลมีเดีย
โซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะแพลตฟอร์มวิดีโอสั้น เช่น Douyin (TikTok) และ Kuaishou มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อของนักศึกษา นักศึกษาจำนวนมากค้นพบสินค้าใหม่และแรงบันดาลใจในการบริโภคผ่านโซเชียลมีเดีย
3. ปัจจัยที่มีผลต่อการใช้จ่ายของนักศึกษาจีน
1. แหล่งรายได้
รายได้ของนักศึกษาจีนมาจากหลากหลายแหล่ง โดยส่วนใหญ่ (55.8%) ได้รับจากครอบครัว รองลงมาคือรายได้จากงานพาร์ทไทม์ (37.4%) และทุนการศึกษา (30.3%)
2. อิทธิพลของสังคมและวัฒนธรรม
กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับความบันเทิง เช่น การเล่นเกม การออกกำลังกาย หรือกิจกรรมกลุ่ม เช่น Escape Room และ Board Game เป็นที่นิยมในกลุ่มนักศึกษา สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในวิถีชีวิตและความต้องการทางด้านวัฒนธรรม
3. ความไวต่อราคา
นักศึกษาจีนมักให้ความสำคัญกับโปรโมชั่นที่ช่วยลดต้นทุน เช่น ส่วนลดและคูปอง การจัดการงบประมาณของพวกเขามักมุ่งเน้นไปที่ความคุ้มค่า
4. ข้อแนะนำสำหรับนักศึกษาไทย
1. สร้างพฤติกรรมการใช้จ่ายที่มีเหตุผล
การวางแผนการเงินที่ชัดเจนจะช่วยให้นักศึกษาไทยสามารถบริหารงบประมาณได้อย่างสมดุล ควรหลีกเลี่ยงการใช้จ่ายล่วงหน้าเกินกำลัง
2. เรียนรู้การใช้แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ
การทำความคุ้นเคยกับแพลตฟอร์มออนไลน์ในจีน เช่น Taobao และ JD.com จะช่วยให้นักศึกษาไทยสามารถเลือกซื้อสินค้าได้อย่างคุ้มค่า อย่างไรก็ตาม ควรระมัดระวังเรื่องคุณภาพและการบริการหลังการขาย
3. เปิดรับวัฒนธรรมใหม่อย่างสมดุล
นักศึกษาไทยสามารถเข้าร่วมกิจกรรมทางวัฒนธรรมและสังคมในมหาวิทยาลัยจีนเพื่อเรียนรู้วัฒนธรรมใหม่ แต่ควรจัดสรรงบประมาณอย่างเหมาะสมเพื่อไม่ให้เกิดภาระทางการเงิน
ต่อต่อทีมงานจิ้นปู้
แอด LINE Official
ไม่พลาดทุกโอกาส
ชั้น 3 จามจุรีสแควร์ ถนนพระราม 4 กรุงเทพฯ (MRT สถานีสามย่าน)